บุรีรัมย์ - คืบหน้า ภรรยาครูเกษียณที่ถูกกล่าวหาบุกเข้าไปตีเด็กชาย ป.2 ถึงในบ้านต่อหน้ายายและพี่สาว ออกมาชี้แจง แค่อบรมเหมือนลูกหลาน หลังเด็กทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งใช้วาจาด่าตัวเองด้วยคำหยาบคาย พร้อมปฏิเสธไม่ได้ขู่ฆ่า
วันนี้ (17 มิ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ นางเพียบ ภรรยาของอดีตของข้าราชการครูคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกระสังสามัคคี ต.สามแวง อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้บุกเข้าไปทำร้าย ด.ช.อดิเทพ สระทอหุน หรือน้องเติ้น อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ถึงในบ้าน ทั้งใช้ก้านมะยมตีขา มือตบปาก ดึงหู และกระชากจนศีรษะโขกกับเสา เพียงเพราะโมโหที่เด็กแลบลิ้นใส่
ล่าสุด นางเพียบ ภรรยาครูเกษียณออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเด็กตามที่ถูกกล่าวหา เพียงอบรมสั่งสอนให้รู้ผิดถูก และกาลเทศะเหมือนลูกหลานเท่านั้น เนื่องจากวันเกิดเหตุน้องเติ้น และเด็กหลายคนได้เข้าไปเล่นในบ้านของตนเอง ซึ่งวันนั้นมีตานอนป่วยอยู่ในบ้าน แล้วเด็กเล่นเสียงดัง พอตนออกมาบอกให้เด็กเล่นเบาๆ น้องเติ้น กลับใช้พฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ทั้งยังตะโกนด่าตนเองกับตาที่นอนป่วยในบ้านด้วยถ้อยคำหยาบคายด้วย
จึงเกิดความโมโห จากนั้นก็เรียกเด็กๆ ทั้งหมดมาสั่งสอนว่าทำแบบนี้มันไม่ถูก พร้อมใช้ก้านมะยมทำโทษทุกคน แต่ไม่ได้ทำรุนแรงเพียงตีเบาๆ พร้อมให้เด็กพูดขอโทษ จากนั้นก็ไปเล่นตามปกติ แต่น้องเติ้น กลับไม่ยอมให้ทำโทษ และได้วิ่งหนีกลับบ้าน ตนจึงเดินตามไปที่บ้านแล้วใช้ก้านมะยม 2 อัน ซึ่งเป็นอันเดียวกับที่ใช้ทำโทษเด็กที่ไปเล่นในบ้าน เข้าไปตีขาน้องเติ้น ก่อนจะใช้มือตีปากเบาๆ และดึงหู พร้อมอบรมด้วยว่าอย่าทำแบบนี้อีกมันไม่สมควร
ก่อนจะทำโทษก็ได้บอกแก่ นางอุไร ร่าเริง ยายของน้องเติ้น ก่อนแล้วซึ่งยายก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้พูดข่มขู่จะเอาชีวิตน้อง เหมือนที่ถูกกล่าวหาด้วย อาจจะเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางผู้ใหญ่บ้านได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายเข้าไปพูดคุย และขอโทษกันจนจบเรื่องแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรจึงมีเรื่องราวเป็นข่าวขึ้นมาอีก ทั้งนี้ นางเพียบ ยังได้ขอความเห็นใจจากสังคมว่า ควรจะฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย ไม่ควรจะตัดสินจากฝ่ายเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวตนเองเสียหาย
ขณะที่ นางเสาวดี ร่าเริง และนางอุไร ร่าเริง แม่ และยายของน้องเติ้น ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยราช เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานว่าลูกถูกทำร้าย แต่ก็ไม่ได้อยากให้เรื่องราวบานปลาย เพียงอยากให้อีกฝ่ายออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือขอโทษต่อสิ่งที่กระทำเท่านั้น ขณะเดียวกัน นางเพียบ และครอบครัว ซึ่งเป็นคู่กรณีได้เดินทางมาที่ สภ.ห้วยราช เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกฝ่ายผู้เสียหายหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียเช่นกัน
แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างบอกตรงกันว่าไม่ได้ต้องการให้เรื่องราวบานปลาย แต่ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายจะมาแจ้งความ จึงได้มาแจ้งความ พร้อมบอกตรงกันว่าหากมีคนกลางจะพูดคุยไกล่เกลี่ยให้ก็พร้อมจะไกล่เกลี่ย เพื่อให้จบเรื่องไม่ต้องผิดใจกัน เบื้องต้นตำรวจก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เพียงรับแจ้งไว้ และจะทำการสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามขั้นตอนเท่านั้น
