ทหารเตรียมเสริมกำลังพลจัดเก็บผักตบชวาหน้าเขื่อนเจ้าพระยา

ชัยนาท - ทหารเตรียมเสริมกำลังพลจัดเก็บผักตบชวาหน้าเขื่อนเจ้าพระยา ให้หมดก่อนถึงฤดูน้ำหลาก ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา เริ่มกักน้ำเหนือเขื่อนไว้ใช้ยามเกิดฝนทิ้งช่วง

วันนี้ (16 มิ.ย) พล.ต.ธนิสร ชวงศ์กล้าหาญ ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ ค่ายพิบูลสงคราม พร้อมด้วย พ.อ.ชนินทร์ สิงหนาทนิติรักษ์ ผู้บังคับการปืนใหญ่ที่ 72 พ.ท.วีรวัฒน์ เฉียงพิมาย ผบ.ป.พัน.721 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ไปติดตามการบริหารจัดการน้ำ และการกำจัดผักตบชวาหน้าประตูระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อดูความก้าวหน้า และรับฟังปัญหาอุปสรรคต่างๆ ในการจัดเก็บผักตบชวา จะได้เตรียมสนับสนุนเครื่องจักร และกำลังพลมาช่วยจัดเก็บก่อนถึงฤดูน้ำหลากที่จะมาในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้

โดยมี นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 และนายเอกศิษฐ์ ศักดิ์ดีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนเจ้าพระยา นำดูการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และการจัดเก็บผักตบชวาบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา และปากคลองส่งน้ำมหาราช

พล.ต.ธนิสร วงศ์กล้าหาญ ผู้บัญชาการกองพลทหารปืนใหญ่ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดชัยนาทครั้งนี้เพื่อดูการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา จะได้นำข้อมูลไปเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ

อีกทั้งยังมาติดตามงานจัดเก็บผักตบชวาซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยพบว่า การจัดเก็บผักตบชวาบริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา ที่สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้มีการดำเนินการไว้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม กองทัพบกเตรียมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนยุทโธปกรณ์ และกำลังพลในการช่วยจัดเก็บผักตบชวาหากมีการร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งให้กองทัพบก เข้าช่วยเหลือการจัดเก็บผักตบชวา เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก

ด้าน นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 กล่าวว่า ฝนตกลงมาทางพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางในช่วงสัปดาห์นี้ แม้จะมีฝนตกทุกวัน แต่ปริมาณฝนเฉลี่ยเพียง 5-10 มิลลิเมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น แต่กลับเป็นผลดีทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพาะปลูก

โดยปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำสะแกกรัง ที่ไหลมารวมกันที่จังหวัดชัยนาท มีปริมาณรวมกันประมาณ 1,350 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำโดยการส่งน้ำเข้าระบบชลประทาน 2 ฝั่งเจ้าพระยา ในปริมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในเกณฑ์ 700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อควบคุมระดับเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ที่ระดับ 16.50 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ทั้งนี้ เพื่อกักน้ำเหนือเขื่อนไว้ใช้หากเกิดฝนทิ้งช่วง

ส่วนการจัดเก็บผักตบชวาที่ลอยมากีดขวางทางน้ำ บริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยา และคลองส่งน้ำมหาราช ได้จัดเก็บขึ้นมาแล้วกว่า 42,000 ตัน และยังคงดำเนินการจัดเก็บต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการสะสมจนกีดขวางการระบายน้ำ และเพื่อให้เขื่อนเจ้าพระยามีทัศนียภาพที่สวยงามตลอดปี