ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เก้อแต่ยังยิ้มสู้! ชาวบ้านนับร้อยคนจาก 3 ตำบล อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เหมารถบัสข้ามจังหวัดตั้งใจร่วมฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีค้านโครงการก่อสร้างโรงงานกระแสไฟฟ้าด้วยชีวมวลในพื้นที่ตามที่ศาลนัด แต่สุดท้ายต้องเลื่อนนัดฟังครั้งใหม่ภายใน 15 วัน เนื่องจากผู้ถูกฟ้องไม่เข้าร่วมโดยอ้างว่าไม่ได้รับหมายนัด ระบุพร้อมกลับมาอีกตามศาลนัดด้วยความหวัง
วันนี้ (15 มิ.ย. 60) ที่ศาลปกครองเชียงใหม่ ตัวแทนชาวบ้านจากตำบลเวียงเหนือ ตำบลริมกก และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 100 คน เดินทางด้วยรถบัสเหมาคันจากจังหวัดเชียงรายเพื่อเข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ คนฮักท้องถิ่นคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานกระแสไฟฟ้าด้วยชีวมวลในพื้นที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย คดีหมายเลขดำที่ 146/2554 และคดีหมายเลขแดงที่ 278/2556 ตามที่ศาลนัดหมาย
โดยคดีนี้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 3 ตำบลร่วมกันยื่นฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ต่อศาลปกครองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 54 เพื่อให้ศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ผู้ถูกฟ้องคดีออกให้แก่บริษัทพลังงานสะอาดดี 2 จำกัด และต่อมามีคำพิพากษาเมื่อ 24 มิ.ย. 56 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาต แต่บริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 10.00 น.ที่นัดหมาย ทางศาลได้แจ้งเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีนี้ออกไป เนื่องจากทางฝ่ายผู้ถูกฟ้องไม่ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาโดยอ้างว่าไม่ได้รับหมายนัด ทำให้ต้องมีการเลื่อนและนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน ทั้งนี้ รายงานระบุว่าจะมีการออกหมายนัดใหม่นำไปติดไว้ที่ที่ทำการของผู้ถูกฟ้องเพื่อนัดฟังคำพิพากษา ซึ่งหากเมื่อถึงวันนัดครั้งใหม่แล้วทางผู้ถูกฟ้องยังไม่มาร่วมฟังคำพิพากษาอีกจะมีการอ่านคำพิพากษาลับหลัง
ทั้งนี้ นางสุพรรณี แสงอรุณ ตัวแทนชาวบ้านที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมเป็นผู้ฟ้องคดีเปิดเผยว่า วันนี้ชาวบ้านรวมตัวกันเดินทางจากจังหวัดเชียงรายมาที่ศาลปกครองเชียงใหม่ด้วยความตั้งใจเพื่อจะมาฟังคำพิพากษาคดีนี้ พร้อมกับความหวังว่าคำพิพากษาจะเป็นไปในทิศทางที่ดีและคุ้มค่ากับสิ่งที่ชาวบ้านช่วยกันต่อสู้มาตลอดระยะเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเนื่องจากทางฝ่ายผู้ถูกฟ้องไม่ได้เดินทางมาร่วมโดยอ้างว่าไม่ได้รับหมายก็ยอมรับได้ เพราะเป็นกระบวนการทางกฎหมาย และพร้อมที่จะรวมตัวกันเดินทางกลับมาตามที่ศาลนัดหมายเพื่อฟังคำพิพากษาอีกครั้งด้วยความหวังเช่นเดิม
ขณะที่ นายวิชัณย์ เขตชำนิ ตัวแทนชาวบ้านอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้ร่วมเป็นผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป แต่ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับชาวบ้านและชุมชนที่ร่วมกันเคลื่อนไหวเรียกร้องและต่อสู้เรื่องนี้แต่อย่างใด ทั้งนี้ไม่ว่าในท้ายที่สุดผลคำพิพากษาจะออกมาเช่นไรก็พร้อมที่จะน้อมรับด้วยดี เพราะอย่างน้อยการที่ชาวบ้านและชุมชนรวมตัวและร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในกรณีนี้ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างและเป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงให้เห็นความเข้มแข็งของชาวบ้านและชุมชนในการรักษาสิทธิและปกป้องชุมชนของตัวเอง
สำหรับคดีนี้ประชาชนในพื้นที่ตำบลเวียงเหนือ ตำบลริมกก ตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย จำนวน 100 รายเป็นผู้ฟ้องคดี พร้อมรายชื่อผู้สนับสนุนการฟ้องคดีกว่า 1,000 รายชื่อรวมตัวกันยื่นฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการออกใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบด้วยพื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเนื่องจากเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญของจังหวัดเชียงรายขัดกับกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2535) ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และอาจมีผลกระทบต่อแหล่งน้ำและความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยร่างกายจากฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาไหม้วัตถุดิบ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการขนส่งวัตถุดิบจากอำเภออื่นๆ มาใช้ในกระบวนการผลิตของโรงไฟฟ้าชีวมวลของบริษัท พลังงานสะอาดดี 2 จำกัด นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ก่อสร้างยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย ได้แก่ โบราณสถานพระเจ้ากือนา วัดพระโบราณ และวนอุทยานประวัติศาสตร์เวียงเชียงรุ้ง