อุทัยธานี - รองปลัดยุติธรรม นำทีมดีเอสไอ-ชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครองนับร้อยนาย บุกตรวจที่ดิน “ชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.ดัง” พบครอบครองที่ น.ส.3 ก ส่อเป็น “สค.บวม” ถึง 11 แปลง เนื้อที่ราว 500 ไร่
วันนี้(15 มิ.ย.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบก.ภ.อุทัยธานี , พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) , พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร , พ.อ.ประสาน แสงศิริลักษณ์ ผู้บังคับการ กกล.รส.อุทัยธานี , นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าฯ อุทัยธานี ร่วมกับชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่า 100 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เขต ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่
หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมีการทำเหมืองแร่ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. และ ส.ป.ก. ซึ่งพบว่า เป็นที่ดิน น.ส.3 ก. ที่แปลงจาก ส.ค.1 จำนวน 11 แปลง เนื้อที่ 152 ไร่ เพิ่มเป็นเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ หรือเรียกว่า สค.บวม และเมื่อตรวจสอบจากการแปลภาพถ่ายทางอากาศแล้วนั้น ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ที่สอดคล้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วยกฏหมาย
คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทางพื้นที่โดยการจับจุด GPS พร้อมใช้โดรนบินขึ้นสำรวจ และเทียบกับเอกสารภาพถ่ายทางอากาศเบื้องต้นพบว่า ที่ดินดังกล่าวนั้น มีหลักฐานหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3.ก) จำนวน 11 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ปัจจุบันมีชื่อของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี เป็นผู้มีสิทธิครอบครอง
ซึ่งที่ดินทั้งหมด ออกมาจากหลักฐานเดิมคือ แบบแจ้งการครอบครอง(ส.ค.1) ในชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ จำนวน 11 ราย และต่อมาบริษัทเหมืองแร่แหลมชัย จำกัด ได้มีการขอออกเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3.ก)พร้อมกัน ทั้ง 11 แปลง ในวันที่ 15 ก.ย.2525 จากนั้นบริษัทเหมืองแร่แหลมชัย จำกัด ได้ทำการขายที่ดินทั้ง 11 แปลงให้กับ นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ (บุตรชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์) เมื่อ 29 เม.ย.2555
และต่อมาได้มีการจดทะเบียนโอนมรดกจากนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ให้กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2558 โดยสภาพที่ดินดังกล่าวมีสภาพเป็นเหมืองเก่า สัมปทานบัตรขาดอายุ ปัจจุบันนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้มีการยื่นขอสัมปทานบัตร และอยู่ในระหว่างการพิจารณา
เมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่า แบบแจ้งการครอบครอง(ส.ค.1)ได้ออกในนามชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ โดยตามหลักฐาน ส.ค.1 ทุกแปลงได้มีการระบุว่าครอบครองมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2490 และทุกแปลงระบุว่าเป็นที่นา แต่จากรูปถ่ายทางอากาศในปี พ.ศ.2496 และ พ.ศ.2518 พื้นที่ดังกล่าวนั้นมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่ได้มีสภาพเป็นพื้นที่นาหรือปรากฏรูปกระทงนาในพื้นที่แต่อย่างใด อีกทั้งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวนั้นยังอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย
ทั้งนี้ศูนย์การประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) ร่วมกับกรมป่าไม้ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าและการป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 ลงวันที่14 มิถุนายน 2557 และ ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 แผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
และหลังจากลงพื้นที่สำรวจภาคพื้นดินพร้อมกับเก็บภาพมุมสูงทางอากาศแล้ว จะดำเนินการประชุมหารือรวมรวมข้อมูลต่างๆเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการสรุปผลผลการดำเนินงานอีกครั้ง