หึ่ง..คนลักงาช้างฤษีผมยาวเลตองคุ หิ้วเข้าพม่าทำพิธียอดดอยแม่ละอิ

ตาก - กระแสข่าวแพร่สะพัด งาช้างอาศรมฤษีผมยาวบ้านเลตองคุโผล่เขตอิทธิพลกะเหรี่ยง DKBA คนลักหิ้วข้ามฝั่งเข้าพม่า นำขึ้นไปทำพิธีบนยอดเขาแม่ละอิ

วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่มีผู้โจรกรรมงาช้างแกะสลักพุทธประวัติสมัยอยุธยา อายุกว่า 400-500 ปี จากศาลาอาศรมฤาษีผมยาว บ้านเลตองคุ ต.แม่จัน หมู่ 10 อ.อุ้มผาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจตระเวนชายแดน กองร้อย ตชด.ที่ 347 อ.อุ้มผาง, ตำรวจ สภ.อุ้มผาง, ฝ่ายปกครอง ได้สืบสวนติดตาม ค้นหาทั่วพื้นที่ชายแดนไทย-พม่าต่อเนื่อง

โดยได้มีการประสานงานทั้งกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กลุ่มนายพล เนอดาเมียะ ผู้บัญชาการกองกำลัง KNU ในกองกำลังเคเอ็นดีโอ รวมทั้งกองกำลังโกะทูบลอของกะเหรี่ยงดีเคบีเอ กลุ่มนายพล มูเซ หรือกลุ่มของนายพล นะคะมวย เดิม

ล่าสุดมีกระแสข่าวจากกะเหรี่ยงดีเคบีเอที่มีอิทธิพลแถบชายแดนพม่า ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ระบุว่า คนที่โจรกรรมงาช้างแกะสลักได้ลักลอบนำงาช้างข้ามฝั่งไปที่ อ.ชูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงของพม่า ตรงข้ามบ้านวาเลย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ

โดยมีการนำงาช้างไปทำพิธีที่ยอดเขาแม่ละอิ ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในฝั่งพม่า ที่มีวัด พระสงฆ์พม่า อาศรมฤาษี และอาศรมรูปปั้นชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมที่เป็นต้นคิดการใช้ภาษาเขียนของชาวกะเหรี่ยงตั้งอยู่ด้วย

ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายไทย ทั้งตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด กำลังประสานกับ พ.อ.ศิวะ ผู้บังคับการรบพิเศษกองกำลังโกะทูบลอ ที่บ้านวาเล่ย์ อ.พบพระ เพื่อประสานความร่วมมือของาช้างโบราณคืน และขอส่งตัวผู้ที่ลงมือขโมยไปมาดำเนินคดีด้วย

สำหรับผู้ที่ก่อเหตุลักงาช้างไปนั้น ชาวกะเหรี่ยงบ้านเลตองคุต่างสงสัยคนในหมู่บ้านรายหนึ่ง ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าได้กลับมาในหมู่บ้าน และขอเข้าไปนอนในเขตศาลาฤาษีผมยาว ที่เป็นอาศรมจัดเก็บงาช้างเก่าแก่ เมื่อคืนวันที่ 8 มิ.ย. ก่อนหายตัวไปพร้อมกับงาช้างดังกล่าว