แกะรอยกล้องวงจรปิดคดีหาหลักฐาน ร.ต.ท.ตม.พนมเปญ ร่วมค้าอาวุธ

ตราด - แกะรอยกล้องวงจรปิดคดีหาหลักฐาน ร.ต.ท.ตม.พนมเปญ ร่วม พ.อ.อ.ค้าอาวุธสงครามที่ยังไม่คืบ ไม่พบขณะขนใส่รถยนต์ พ.อ.อ. ด้านประวัติ ร.ต.ท.ตม.พนมเปญ ยังไม่ได้จากกัมพูชา

ความคืบหน้าคดี พ.อ.อ.ภคิน เดชพงษ์ นำอาวุธสงครามจากประเทศเพื่อนน้านเพื่อนำส่งขายชนกลุ่มน้อยที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2560 นั้น ใกล้ครบ 7 วัน ที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้เวลาภายในวันที่ 11 มิถุนายน 2560 นี้ ที่พนักงานสอบสวนต้องสรุปคดี

แหล่งข่าวระดับสูงจาก สภ.คลองใหญ่ เผยว่า ทาง สภ.คลองใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่รับส่งอาวุธปืนสงคราม ได้รับคำสั่งให้ติดตาม และแกะรอยผู้ค้าอาวุธที่ขนส่งมาให้ พ.อ.อ.ซึ่งทางตำรวจสายสืบ สภ.คลองใหญ่ ได้แกะรอยกล้องวงจรปิดทั้งจากของตำรวจเอง ของเทศบาลคลองใหญ่ และเทศบาลหาดเล็ก

และส่วนราชการอื่นๆ ในจุดผ่านแดนถาวรเพื่อมาเชื่อมโยงกับหลักฐานอื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่ในโรงแรมในเขตเทศบาล ต.คลองใหญ่ ซึ่งพบรถยนต์ทั้ง 2 คัน เข้าและออกโรงแรมทวีศักดิ์กิตติยา วันที่ 3 มิถุนายน 2560 รถยนต์เลนจ์โรเวอร์ เข้าโรงแรมในเวลา 06.52 น.และออกในเวลา 07.08 น.

สำหรับรถยนต์อีซูซุ เข้าพักในวันที่ 2 มิถุนายน 2560 เวลา 20 .00 น. และออกจากโรงแรมในวันที่ 3 มิถุนายน 2560 เวลา 07.28 น. แต่ภาพวงจรปิดได้เพียงเท่านี้ ไม่พบว่ามีภาพที่กำลังขนอาวุธสงครามใส่ในรถยนต์ต้องสงสัย

ส่วนอีก 2 จุด คือ บริเวณโรงแรมคลองใหญ่ ทั้งภายใน และภายนอกก็ไม่พบ รวมทั้งบริเวณช่องเขาวง ที่เป็นช่องทางที่ถูกอ้างตั้งแต่ต้นว่า มีการขนอาวุธสงครามผ่านจุดนี้ แต่ยังไม่พบภาพวงจรปิดเช่นกัน

นอกจากนี้ ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พบภาพของรถยนต์ที่ ร.ต.ท.เรียง พิเสิด เข้าออกผ่านจุดผ่านแดนถาวรหาดเล็กหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานว่ามีการขนอาวุธสงคราม อยู่ในรถยนต์คันเกิดดังกล่าว

สำหรับประวัติของ ร.ต.ท.เรียง พิเสริด นั้น ทางตำรวจภูธร จ.ตราด และหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ได้ประสานไปยังส่วนราชการ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชาไทยด้าน จ.เกาะกง เพื่อให้ได้รับการยืนยัน และรับรอง แต่ยังไม่สามารถ ได้ประวัติดังกล่าวได้ในขณะนี้