หนองคาย - สองหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ไปรับยาบ้า 6,400 เม็ดข้างทาง เจอด่านตำรวจอุตส่าห์เลี้ยวหลบไปออกอีกซอยแต่เจอตำรวจดักอีกทาง สุดท้ายไม่รอด สารภาพรับจ้างนำไปส่งลูกค้าที่อุดรฯ ค่าจ้าง 10,000 บาท
เมื่อเวลา 09.20 น. วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ด่านตรวจสองห้อง ถนนมิตรภาพ อ.เมืองหนองคาย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4, พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบก. รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิชย์ รอง ผกก.(ป.), พ.ต.ท.วิเศษ ลานอุ่น รอง ผกก.(สส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสองห้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายนพรัตน์ โคตะคำ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 392 หมู่ 11 ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และนายธนาวุฒิ สุขากัลยา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 16 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พร้อมของกลางยาบ้า 6,400 เม็ด ไอซ์จำนวนหนึ่ง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซีบี 400 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
การจับกุมในครั้งนี้ เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสองห้องได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ตามปกติ พบว่านายนพรัตน์ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว นายธนาวุฒิสะพายกระเป๋าเป้สีแดงนั่งซ้อนท้ายมา พอเห็นว่ามีด่านตรวจ นายนพรัตน์ได้เลี้ยวรถกลับหวังจะไปออกซอยด้านข้างไปรษณีย์ซึ่งอยู่ถัดไปจากด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงขี่รถดักสกัด และได้เรียกตรวจค้น
พบว่าในกระเป๋าเป้มีถุงพลาสติกบรรจุกล่องกระดาษ ภายในกล่องมียาบ้า 1 ก้อน 32 ถุง นับรวมได้ 6,400 เม็ด และไอซ์อีกถุงเล็กๆ ปะปนอยู่ด้วย จึงคุมตัวไว้สอบสวน
จากการสอบสวนทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า มีนายหนู ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ว่าจ้างให้มารับยาบ้าที่วางไว้ริมถนนทางเข้าบ้านโนนฤาษี อ.โพนพิสัย พวกตนจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์มารับเมื่อเวลา 06.00 น. จากนั้นจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.อุดรธานี โดยไปถึงแล้วจะมีคนโทรศัพท์นัดหมายจุดส่งมอบยาบ้าอีกครั้ง แล้วนายหนูจะให้เงินค่าจ้าง 10,000 บาท แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รก.รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่านตรวจทุกแห่งเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ดูแลความเรียบร้อย ป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสช่วงเทศกาลกระทำความผิดทั้งอาชญากรรม และยาเสพติด พร้อมกันนี้ อยากให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วย เพราะร้อยละ 70 ของคดีที่เกิดขึ้นตาม สภ.ต่างๆ เป็นคดียาเสพติด และผู้กระทำผิดล้วนเป็นบุคคลในพื้นที่ทั้งนั้น