MGR Online - ตำรวจท่องเทียวรวบแก๊งไนเจอร์ ลอบขนบัตรเครดิตปลอม ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อนำมาใช้รูดซื้อสินค้าในประเทศไทย พร้อมยึดของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม 269 ใบ
วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.นิธิกร จิตนกานนท์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา ผกก.6 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ร่วมกับ นายบุญเทียม โชควิวัฒน ผอ.สนง.ศุลกากร ตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการตรวจสอบผู้โดยสาร และผู้บริหารระดุบสูงสุดการป้องกันทางการเงินธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหา 1. นายยาฮายา มาฮามาดู ซาเลา (YAHAYA MAHAMADOU SALAO) สัญชาติไนเจอร์ หนังสือเดินทางประเทศไนเจอร์ หมายเลข 09PC52191ลงวันที่ 27 ก.ย. 59 เที่ยวบิน UL883 เวลาประมาณ 20.50 น. 2. นายมามาน มาลัม อับดู ((MAMAN NALAM ABDOU) สัญชาติไนเจอร์ หนังสือเดินทางประเทศไนเจอร์ หมายเลข 09PC48193 วันที่ 28 ก.ย. 59 เที่ยวบิน ZH9031 เวลาประมาณ 02.05 น. และ 3. นายฮาลีโรว์ อับดุล คาร์เคร (HALIROU ABDOUL KADRE) สัญชาติไนเจอร์ หนังสือเดินทางประเทศไนเจอร์ หมายเลข 09PC9076 วันที่ 28 ก.ย. 59 เที่ยวบิน ZH9031 เวลาประมาณ 02.05 น.
สืบเนื่องจากแนวทางการสืบสวนหาข่าวทราบว่า จะมีกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบขนของผิดกฎหมาย เข้ามายังประเทศไทย โดยผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กก.6 บก.ทท. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจศุลกากร เฝ้าระวังกวดขันตรวจของสัมภาระผู้โดยสาร ต่อมาเมื่อคืนวันที่ 27 ก.ย. 2559 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัย หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระแล้วกำลังผ่านช่องทางตรวจสัมภาระ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำช่องตรวจผู้โดยสารเข้าเข้าช่องเขียวโซน C จับกุมตัว นายยาฮายา มาฮามาดู ซาเลา สัญชาติไนเจอร์ ซึ่งแอบลักลอบนำเข้าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จำนวน 269 ใบ เพื่อนำมาใช้รูดซื้อสินค้าในประเทศไทย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่า ยังมีชาวต่างชาติที่ลักลอบนำเข้าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมในลักษณะเดียวกัน เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จึงได้ติดตามตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย กระทั่งสามารถจับกุมตัวนายมามาน และ นายฮาลิโรว์ ที่บริเวณด่านศุลกากรช่องตรวจผู้โดยสาร ขาเข้าช่องเขียวโซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของนายมามาน และ นายฮาลีโรว์ พบบัตรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก มัดรวมกันซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางของทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายมามาน และ นายฮาลิโรว์ มาที่ทำการตำรวจท่องเที่ยว และได้ตรวจสอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่นายมามาน นำเข้ามาในประเทศ พบว่า มีจำนวน 223 ใบ นายฮาริโลว์ จำนวน 66 ใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสาน นายอรรถวิทย์ จุติเวช เจ้าหน้าที่ทีมสืบสวน และตรวจสอบธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อตรวจสอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า เป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ รวม 558 ใบ ซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และเป็นบัตรของบุคคลอื่น และหากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมทั้งหมดถูกนำไปใช้ในประเทศทั้งหมดใบละประมาณ 3,000 - 5,000 บาท เป็นอย่างน้อย จะมีความเสียหาย 2 - 5 ล้านบาท
จากการสอบถามผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 คน ให้การว่า บัตรดังกล่าวได้มาจากญาติพี่น้อง เพื่อนำมาใช้รูดซื้อสินค้า ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า นำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม”
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ถูกจับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป