เตรียมนำช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต ไปป่าตะกุบ

จันทบุรี - ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ออกมายืนยันเตรียมนำช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บเคลื่อนย้ายไปสู่ป่าตะกุบ เขตพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ขณะที่โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ได้แตกออกเป็น 2 โขลง ออกหากินในพื้นที่ตำบลพวา และยังไม่พบว่ามีการทำร้ายชาวบ้านเพิ่ม

วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้ากรณีช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บ จนทางอำเภอแก่งหางแมว ต้องมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อวานนี้ และล่าสุด ทางจังหวัดจันทบุรี ก็ได้มีการประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลขุนซ่อง และตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติช้างป่าแล้ว ทำให้ในเรื่องนี้ในที่ประชุมมีมติที่จะให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการเคลื่อนย้ายช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บ

รวมทั้งช้างป่าที่ชาวบ้านเป็นกังวล เคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ป่าตะกุบ ที่เป็นพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อลดความวิตกกังวลของชาวบ้านลง ขณะที่เช้าวันนี้โขลงช้างป่ากว่า 70 ตัว ได้แตกออกเป็น 2 โขลง ในการกระจายหากินอยู่บริเวณป่าท้ายสวนยางพารา และมันสำปะหลังของชาวบ้าน โดยยังไม่ได้รับรายงานว่ามีช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเพิ่ม

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเขาสิบห้าชั้น ชุด ชรบ.หมู่บ้าน ทหาร และผู้นำชุมชนได้จัดกำลังเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านตัวนี้ ก่อนจะเตรียมการยิงยาซึมเพื่อทำการเคลื่อนย้ายช้างป่าเกเรออกนอกพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเคลื่อนย้ายไปสู่ป่าเขาตะกุบ พื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดต่อไป

นายอยู่ เสนาธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีมติจะให้มีการจับช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต และบาดเจ็บ เคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปอยู่ที่ป่าเขาตะกุบ ในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดนั้น ตนเองรับปากจะมีการนำข้อเสนอของที่ประชุมไปเสนอต่อทางกรมอุทายแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทั้งนี้ หากมีโอกาสที่จะมีการยิงยาซึมช้างป่าที่ทำร้ายชาวบ้าน และช้างป่าที่ชาวบ้านเป็นกังวลทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะทำ และเคลื่อนย้าย เพื่อลดการหวาดวิตกกังวล และหวาดกลัวของชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป