จันทบุรี - ผู้ปลูกยางพาราจันทบุรี หวาดกลัวโขลงช้างป่าจะทำร้ายจนไม่กล้าที่จะออกมากรีดยาง หลังโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ยังไม่กลับขึ้นเขา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ต้องจัดเวรยามเฝ้าดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (18 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ที่ยังคงหากินอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด พบโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว วนเวียนหากินอยู่ในพื้นที่ท้ายป่ายาง และไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน และยังไม่มีทีท่าจะกลับขึ้นเขา ทำให้ชาวบ้านที่ปลูกยางพาราไม่กล้าที่จะออกมากรีดยาง หรือออกมาทำการเกษตร เนื่องจากหวาดกลัวว่าโขลงช้างป่าจะเข้ามาทำร้าย
เหมือนเคยที่เกิดขึ้นกับ นายเฉิบ สุขสวัสดิ์ อายุ 77 ปี ที่ถูกช้างป่าทำร้าย และนายประเสริฐ จันน้อย อายุ 59 ปี ที่ถูกช้างบุกเข้ามาทำลายข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้ง นางสมทรง หนองใหญ่ ที่ถูกช้างป่าเหยียบรถจักรยานยนต์พังเสียหายไป 3 คัน
ในเบื้องต้น นายมนัส หาดแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลพวา กล่าวว่า ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านได้รับทราบถึงโขลงช้างป่าที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ โดยการให้ชาวบ้านเมื่อพบเห็นช้างป่าอย่าได้ออกมานอกบ้าน ให้อยู่ภายในบ้าน และชาวบ้านควรแจ้งเจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.หมู่บ้าน หรือผู้นำชุมชนโดยทันที ซึ่งทางผู้นำจะได้มีการจัดชุดเฝ้าระวังช้างป่าเข้ามาช่วยเหลือ และดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตลอด 24 ชม.
นายพรชัย วันเวียน ชาวบ้านที่ปลูกยางพารา กล่าวว่า เมื่อก่อนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ปัจจุบันช้างป่ามีความดุร้ายมากขึ้นจนทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ทำให้ตนเองรู้สึกวิตกกังวล และหวาดกลัวมาก และไม่กล้าที่จะออกมากรีดยาง ประกอบกับอาชีพปลูกยางพาราก็ไม่ค่อยพอกิน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงบประมาณลงมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าบุกทำลายพืชผลทางการเกษตรเสียหาย หรือผลักดันให้โขลงช้างป่าโขลงนี้ออกนอกพื้นที่ และได้กลับพื้นที่เดิมต่อไป