กาฬสินธุ์ - สุดเหิม! คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง จับสองตาหลานมัดมือมัดเท้า ก่อนตัดไม้พะยูง แต่เกิดล้มทับสายไฟขาดไม่สามารถตัด และขนออกไปได้ ขณะที่ตำรวจเร่งตามตัวคนร้าย ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุผู้เสียหายให้การวกวน เร่งสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม คาดหักหลังกันเอง
วันนี้ (21 ธ.ค.) ได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 123 บ้านกกมะค่า หมู่ 6 ต.ร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ มีคนร้ายบุกเข้ามาจับเจ้าของบ้านมัดมือมัดเท้าแล้วทำการตัดไม้พะยูง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา จากการตรวจสอบบริเวณบ้านพบว่า ทางเข้าบ้านมีการเลื่อยต้นไม้พะยูงขนาดใหญ่ อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี จนล้มลงทับสายไฟฟ้าขาด
สอบถาม นางศรีประจันทร์ คุ้มกุดลิง อายุ 60 ปี ภรรยาของนายประดี คุ้มกุดลิง อายุ 60 ปี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนวันที่ 20ธ.ค. ขณะนั้น นายประดี ซึ่งเป็นสามี อยู่กับหลานชายวัย 30 ปี จากนั้นมีกลุ่มคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างบ้านเข้ามาจับตัวแล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้าแล้วจับให้นั่งลง จากนั้นมีรถกระบะประมาณ 2 คันขับมาจอดข้างทาง โดยคนร้ายประมาณ 3-4 คน นำเลื่อยไฟฟ้ามาตัดต้นพะยูงจนล้มลง แต่ไม้พะยูงล้มทับสายไฟจนสายไฟขาด ทำให้ไม่สามารถทำการเลื่อยไม้ต่อไปได้จึงพากันหลบหนีไป
ขณะนั้นสามีของตนพบว่า คนร้ายมีปืนพกติดตัวมาด้วย จึงไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือ เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตราย หลังจากคนร้ายหลบหนีไปแล้วสามีตนพยายามแก้เชือกที่บริเวณขาจนหลุดพยุงตัวลุกขึ้นได้ แต่เดินไม่ได้ จึงกระโดดเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ จนชาวบ้านเห็นได้ช่วยกันแก้เชือกที่มัดไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
ล่าสุด นายประดี คุ้มกุดลิง ผู้เสียหายได้เข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.อภิชัย คำตัน พนักงานสอบสวน สภ.ร่องคำ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมติดตามกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุอุกอาจในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากต้องใช้เวลาสอบสวนจนเสร็จก่อน และจะนำข้อมูลหลักฐานส่งให้แก่ทีมชุดสืบสวนติดตามตัวคนร้ายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.มนตรี จรัลพงศ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานแล้ว พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธุ์ศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ซึ่งต้นไม้พะยูงถูกตัดล้มลงจริง แต่เบื้องต้น จากการสอบปากคำผู้เสียหายให้การวกไปวนมา และมีพิรุธหลายอย่าง ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเข้าไปปล้นตัดไม้พะยูงอย่างแน่นอน คาดว่าน่าจะเป็นการหักหลังการซื้อขายไม้พะยูง และจับมัดมือมัดเท้าก็เป็นได้ จึงต้องสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง