ซีพีเอฟ สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิดต้นแบบให้โรงเรียนใน จ.ชลบุรี แห่งแรกของประเทศ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ซีพีเอฟ สร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด ต้นแบบที่ได้มาตรฐานฟาร์มจากกรมปศุสัตว์ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ให้โรงเรียนเกาะโพธิ์ถ้วยงามวิทยา อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี แห่งแรกของประเทศ เพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบพึ่งพาตนเอง และสามารถสร้างรายได้ให้โรงเรียนอย่างยั่งยืน

วันนี้ (21 ธ.ค.) นายสมภพ มงคลพิทักษ์สุข ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสายธุรกิจไก่ไข่ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นประธานมอบโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ความจุ 4,230 ตัว ให้แก่โรงเรียนเกาะโพธิ์ถ้วยงามวิทยา ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี

โดยมี นายสุรชาติ มานิตย์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 นายเสนีย์ สำราญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนเกาะโพธิ์ถ้วยงามวิทยา ปลัดอำเภอเกาะจันทร์ คณะครู และเด็กนักเรียนให้การต้อนรับในครั้งนี้

โครงการดังกล่าว บริษัทฯ ร่วมกับมูลนิธิเจริญ โภคภัณฑ์ ให้การสนับสนุนงบประมาณทั้งสิ้น 4,231,800 บาท สร้างโรงเรือนอีแวป (ระบบปิด) ที่ได้รับรองมาตรฐานฟาร์มจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีขนาดโรงเรือนกว้าง 8 เมตร ยาว 71 เมตร พร้อมติดตั้งอุปกรณ์กรงตับ และอุปกรณ์การเลี้ยง สำหรับเลี้ยงแม่ไก่ จำนวน 4,230 ตัว พร้อมสนับสนุนการอบรมถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ที่ถูกต้องแก่เด็กนักเรียน และครูผู้ดูแลโครงการโดยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ นอกจากนั้น ยังมีการติดตามการดำเนินงานให้คำแนะนำการบริหารจัดการฟาร์มไก่ไข่แบบครบวงจรด้วย

นายสมภพ กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโมเดลนำร่องแห่งแรกของประเทศที่บริษัทฯ บูรณาการต่อยอดถ่ายทอดองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญการเลี้ยงไก่ไข่เชิงพาณิชย์แก่ครู และนักเรียน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพด้านการศึกษา ด้านโภชนาการที่ดีของเยาวชน พร้อมสร้างรายได้ให้แก่โรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ช่วยให้โรงเรียนมีงบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาคุณภาพบุคลากร และการศึกษาตามความต้องการได้ และสามารถสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเหมาะสม

ด้าน นายสุรชาติ มานิตย์ รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 กล่าวว่า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว ทำให้โรงเรียนสามารถผลิตอาหารปลอดภัย สนับสนุนให้เกิดโภชนาการที่ดีแก่เยาวชน รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพเลี้ยงสัตว์แบบครบวงจร สอดคล้องต่อนโยบาย “ลดเวลาเรียน เสริมเวลารู้” ที่สำคัญช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตที่ได้นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และบุคลากรตามความต้องการของโรงเรียน

“โดยโรงเรียนเกาะโพธิ์ถ้วยงามวิทยา นั้น จะเป็นโรงเรียนต้นแบบของกระทรวงศึกษาธิการ ที่นำโครงการเลี้ยงไก่ไข่ บูรณาการกับการพัฒนาคุณภาพเยาวชน การศึกษาและการพึ่งพาตนเอง ที่โรงเรียน และชุมชนอื่นๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้” นายสุรชาติ กล่าว

นายเสนีย์ สำราญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนเกาะโพธิ์ถ้วยงามวิทยา กล่าวว่า สำหรับโรงเรียนเกาะจันทร์ถ้วยงามวิทยา เปิดสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีนักเรียนทั้งสิ้น 628 คน ครูทั้งสิ้น 37 คน ซึ่งการได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับคุณภาพของเยาวชนแล้ว ทางโรงเรียนได้บรรจุโครงการนี้เข้าสู่วิชาเสริมในหลักสูตรการมีงานทำ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่พัฒนาทักษะอาชีพแก่เยาวชน สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลักหลังจบการศึกษาได้ เพราะนักเรียนได้เรียนรู้ และมีประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบัติจริงในฟาร์ม และมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญเมื่อมีทักษะ และความเชี่ยวชาญก็สามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองในอนาคต