ศิลปินดังจับมือทหารเร่งบูรณะศาลารอยพระบาท “ร.๙”

เชียงราย - กลุ่มศิลปิน “ขัวศิลปะเชียงราย” ร่วมกับทหารค่ายเม็งรายมหาราช วางแผนบูรณะ “ศาลารอยพระบาท ร.๙” บนดอยโหยด หลังชำรุด-ต้องปิดประตูห้ามคนเข้ามาตั้งแต่แผ่นดินไหวใหญ่ปี 57 เตรียมทำภาพพิมพ์จากภาพจริงจำหน่ายระดมทุนสมทบ

อาจารย์อภิรักษ์ ปันมูลศิลป์ ศิลปินจากขัวศิลปะเชียงราย และคณะ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ได้เข้าสำรวจพื้นที่ศาลารอยพระบาทฯ ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวหนักเมื่อปี 2557 ซึ่งส่งผลทำให้หลายจุดมีรอยร้าว ระบบไฟฟ้าไม่สามารถใช้การได้ และมีหญ้าขึ้นบนหลังคา ส่วนภายในอาคารที่เคยเป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระบาท ทางฝ่ายทหารได้ปิดกุญแจเอาไว้อย่างมิดชิด โดยมีการกั้นแผงพร้อมประกาศปิดปรับปรุงเอาไว้

และได้อัญเชิญรอยพระบาทบนปูนปลาสเตอร์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากศาลากลางดังกล่าวไปประดิษฐาน ณ ศาลาหลังเล็กหน้า บก.ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ซึ่งเชิงเขาเป็นการชั่วคราว

อาจารย์อภิรักษ์กล่าวว่า รอยพระบาทฯ ที่ประดิษฐานภายในค่ายเม็งรายมหาราชถือเป็นสิ่งล้ำค่า และสิริมงคลต่อชาวเชียงราย รวมถึงชาวไทยเป็นอันมาก แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอดีตทำให้ต้องมีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่ศาลาเชิงดอยโหยดแทน

ดังนั้น ตนจึงได้ประสานกับทาง ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ กลุ่มรวมพลังเพื่อพ่อของแผ่นดิน และศิลปิน เพื่อร่วมกันบูรณะศาลารอยพระบาทฯ เพื่อให้สามารถอัญเชิญรอยพระบาทที่พระราชทานบนปูนปลาสเตอร์ขึ้นมาประดิษฐาน ณ ศาลาแห่งเดิม เพื่อให้สมพระเกียรติ และเป็นมิ่งขวัญของทั้งทหาร ตลอดจนประชาชนต่อไป

อาจารย์อภิรักษ์กล่าวอีกว่า ตนจะรับหน้าที่วาดภาพชื่อ “รอยพระบาทในหลวงรัชกาลที่ ๙” ด้วยเทคนิคสีน้ำมันบนผ้าเลนิน ขนาด 60 ซม. คูณ 80 ซม. ซึ่งเป็นภาพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชทานรอยพระบาทเมื่อปี 2525 โดยรอยพระบาทภายในภาพมีขนาดเท่ารอยพระบาทจริง คือยาว 24.5 ซม. เบื้องหลังเป็นทิวทัศน์ของศาลารอยพระบาทฯ

“ตอนนี้ได้วาดเสร็จแล้วตั้งแต่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา และจะนำทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ณ พระตำหนักดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย”

ส่วนการบูรณะศาลารอยพระบาทฯ นั้น คณะฯ จะจัดทำภาพพิมพ์บนผ้าแคนวาสจากภาพจริง และมีขนาดเท่าภาพจริงทุกประการ แต่จะทำจำนวนจำกัด คือแบบลายเซ็นสีเงิน 299 ชิ้น และลายเซ็นสีทองจำนวน 299 ชิ้นเท่านั้น เพื่อเชิญชวนผู้สนใจสั่งซื้อในราคา 3,999 บาท รวมค่าจัดส่งภายในประเทศ นำรายได้มาบูรณะศาลารอยพระบาทฯ เช่น รอยร้าว ทาสีใหม่ ปรับปรุงสวน ระบบไฟฟ้า ฯลฯ ส่วนการประดับตกแต่งต่างๆ จำเป็นที่จะต้องให้ศิลปินเข้ามาดำเนินการเพื่อให้มีความสวยงาม

จากนั้นวันที่ 27 ก.พ. 2560 ก็จะได้ร่วมกับฝ่ายทหารในการอัญเชิญรอยพระบาทจริงที่ประดิษฐานอยู่ ณ ศาลาเล็กเชิงเขา กลับขึ้นมาประดิษฐาน ณ ศาลารอยพระบาทฯ แห่งนี้ให้สมพระเกียรติต่อไป

“ศาลารอยพระบาทฯ ภายในค่ายเม็งรายมหาราช ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางจิตใจ และสิริมงคลต่อปวงชนชาวไทย เพราะเป็นพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นขวัญกำลังใจให้เหล่าทหารหาญ และประชาชนในพื้นที่ที่ยังไม่มีความสงบในอดีต และพระราชทานรอยพระบาทไว้ ผมจึงจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์”

สำหรับรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชพระราชทานไว้เมื่อคราวเสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาธินัดดามาตุ มาทรงเยี่ยมเยือนทหารหาญและราษฎร ณ ฐานปฏิบัติการดอยพญาพิภักดิ์ เมื่อ 27 ก.พ. 2525 ซึ่งทางค่ายเม็งรายมหาราชได้จัดพิธีสมโภช และอัญเชิญรอยพระบาทขึ้นไปประดิษฐาน ณ ศาลารอยพระบาทฯ ตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ผ่านมา กระทั่งเกิดแผ่นดินไหว