กาฬสินธุ์/เลย - ล็อตแรกเงินรัฐบาลถึงมือผู้มีรายได้น้อย ชาวกาฬสินธุ์ตื่นตัวแน่นแบงก์รัฐ โดยเฉพาะ 18 สาขาของแบงก์ ธ.ก.ส. ด้าน ผอ.สั่งการรับมือพร้อมบริการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะที่ผู้มีรายได้น้อยชาวเลยที่คุณสมบัติครบทยอยรับเงินแต่เช้าท่ามกลางอากาศหนาว 14 องศาฯ
วันนี้ (13 ธ.ค.) บรรยากาศที่ธนาคารของรัฐ ประกอบด้วยธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่ตื่นตัวเข้ามาติดตาม และรับเงินสำหรับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งทางรัฐบาลได้โอนเงินเข้าระบบตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ทั้ง 18 สาขา ใน 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียนรอบแรกกว่า 78,500 ราย โดยนายยุทธพงศ์ ภัทรธรรม ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้เจ้าธนาคารทุกสาขาพร้อมให้บริการแก่ประชาชนอย่างดีและทั่วถึง พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย
นายวุฒิพงศ์ เกษสัญชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ภาพรวมของทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันแรกมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการที่ธนาคารจำนวนมากทั้ง 18 สาขา ตามที่มีผู้ลงทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส. จ.กาฬสินธุ์ทั้งหมด 130,844 ราย โดยล็อตแรกที่มีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินผ่านทาง ธ.ก.ส. กาฬสินธุ์ มีจำนวนทั้งสิ้น 78,500 ราย ยอดเงินทั้งหมด 186,837,000 บาท
ทั้งนี้ ประชาชนที่ทราบข่าวว่าทางรัฐบาลโอนเงินเข้ามาทางธนาคารแล้ว ได้เดินทางมาที่ธนาคารตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเข้าคิวรับเงิน
ซึ่งปัญหาที่พบในวันแรกก็จะเป็นเรื่องของการตรวจสอบสิทธิ ที่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่เป็นผู้มีรายได้น้อยแต่ไม่มีชื่อในระบบของสรรพากร ส่วนนี้ทางธนาคารจะรับเรื่องไว้และดำเนินการแก้ไขให้ เช่นเดียวกันกับกรณีที่เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล นอกจากนี้ ทาง ธ.ก.ส.ได้คาดการณ์แล้วว่าจะมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก
ทั้งการเข้ามาติดตามสอบถามและการเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินตามหลักเกณฑ์ กรณีผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทต่อปี และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์เป็นผู้ว่างงานจะได้รับเงิน 3,000 บาท ขณะที่ผู้ที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงิน 1,500 บาท
“ทางผู้อำนวยฯ ได้สั่งการไปยัง ธ.ก.ส.สาขาทุกแห่งให้เตรียมดูแลประชาชนให้เต็มที่ เพราะจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ ธ.ก.ส.สาขาอำเภอห้วยเม็กที่มีประชาชนลงทะเบียนและมีชื่อรับเงินล็อตแรกสูงสุดกว่า 7,196 ราย และสาขาหนองกุงศรี 6,580 ราย วงเงินกว่า 30 ล้านบาท และสำหรับประชาชนที่ยังไม่เปิดบัญชี สามารถมาเปิดบัญชีเพื่อรับเงินได้จนถึงวันที่ 15 ธ.ค. 59 นี้ และสำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารแล้วก็นำสมุดบัญชีไปปรับเพื่อตรวจสอบยอดเงินได้ที่ ธ.ก.ส.ใกล้บ้านท่าน” นายวุฒิพงศ์กล่าว
ชาวเลยแห่รับเงินแน่น ท่ามกลางอากาศหนาว 14 องศาฯ
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่เช้าวันเดียวกันนี้ ที่ ธ.ก.ส.สาขากำเนิดเพชร จ.เลย มีเกษตรกรจำนวนมากเดินทางมารับเงินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย ส่วนมากจะเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ที่เปิดบัญชีไว้แล้ว
นายสุรพงษ์ อิ่มเอิบ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเลย กล่าวว่า หลังได้รับข้อมูลผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากกระทรวงการคลังแล้ว จังหวัดเลยมีผู้มีรายได้น้อยที่คุณสมบัติครบจำนวน 46,161 ราย วงเงิน 100,597,000 บาท ทั้ง 18 สาขาทั่วจังหวัดเลย เฉพาะ ธ.ก.ส. สาขากำเนิดเพชรมี 4,066 ราย ทยอยเดินทางมารับตั้งแต่เช้า ท่ามกลางอากาศหนาว 14 องศาฯ
นายสุรพงษ์กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากผู้ลงทะเบียนกลุ่มนี้คุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของรัฐบาลและมีบัญชีเงินฝากที่ ธ.ก.ส. จึงสามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ทันที โดยระบบจะทยอยประมวลผลการโอนเงินตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับสิทธิ์สามารถเบิกเงินได้ในวันนี้ ส่วนผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วและยังไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากอีกจำนวนหนึ่งก็ขอให้มาติดต่อเปิดบัญชีได้ที่ ธ.ก.ส.สาขาที่ท่านลงทะเบียนไว้ เพื่อธนาคารจะได้โอนเงินช่วยเหลือตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลต่อไป
สำหรับจังหวัดเลย การโอนเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ธ.ก.ส.ได้โอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ทั้ง 18 สาขา เป็นจำนวน 46,161 ราย เงิน 100,597,000 บาท