เชียงราย - อาจารย์เฉลิมชัย ขอบคุณผู้ว่าฯ แพร่ แก้ไข ดูแลภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ “ในหลวง ร.๙” ทันที แต่ขอซ่อมเอง ห้ามใครแตะ หรือนำไปใส่กรอบ บอกค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ควักเอง ทำเสร็จส่งคืนให้ทันที ฝากทุกจังหวัดดูแลภาพผลงานศิลปินที่วาดพร้อมกันให้ดี ย้ำล้วนเป็นภาพที่ควรเทิดทูน และล้ำค่า
วันนี้ (10 ธ.ค.) อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ได้กล่าวถึงกรณีภาพ “ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก” ซึ่งวาดขึ้นร่วมกับศิลปิน เนื่องในโอกาสในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระชนมายุ 72 พรรษา เพื่อมอบให้แก่ทางราชการ และมีการนำไปติดตั้งที่ศาลากลาง จ.แพร่ เมื่อปี 2542 หรือ 17 ปีก่อน
กระทั่งพบรอยฉีก รอยด่าง รอยมูลสัตว์กว่า 10 จุด พร้อมเรียกร้องให้มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และตำหนิการดูแลรักษาภาพดังกล่าวอย่างดุเดือด
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า หลังมีข่าวออกไปทางผู้บริหารจากศาลากลาง จ.แพร่ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนแล้ว และทราบว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ก็รับปากจะดูแลภาพดังกล่าวให้เป็นอย่างดี ซึ่งตนต้องขอขอบคุณทางผู้ว่าราชการ จ.แพร่ เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม กรณีที่จะมีการซ่อมแซมภาพนั้น ตนขอแจ้งว่า ภาพนี้ตนต้องซ่อมแซมให้ด้วยตัวเอง เพราะมีความละเอียด จึงขอห้ามไม่ให้ผู้ใดแตะต้องเนื้อภาพ ซึ่งใช้เทคนิคสีอะคลิริกบนผ้าใบดังกล่าว หรือรีบนำไปใส่ในกรอบกระจกอย่างเด็ดขาด
เบื้องต้น ตนจะไปดูภาพด้วยตัวเองก่อน หากสามารถซ่อมแซมได้ในพื้นที่ จ.แพร่ ก็จะดำเนินการให้จนแล้วเสร็จ แต่ถ้าดูแล้วไม่สามารถทำการซ่อมแซมที่ จ.แพร่ ได้ ก็จะต้องยกกลับมาซ่อมแซมที่เชียงราย จนกว่าจะแล้วเสร็จจึงจะส่งกลับคืนไปยังศาลากลาง จ.แพร่ ดังเดิมต่อไป
อาจารย์เฉลิมชัย บอกว่า จะดำเนินการให้เมื่อมีโอกาสเดินทางไปยัง จ.แพร่ และยืนยันว่าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด โดยที่ทางราชการไม่ต้องจ่าย หรือเป็นห่วงแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่า ดูสภาพแล้วคงจะซ่อมแซมได้ยากมาก
“ขอบคุณทางผู้ว่าราชการ จ.แพร่ และขอฝากถึงทุกจังหวัดที่นำภาพวาดจากหลากหลายศิลปิน ไปไว้ที่ศาลากลางจังหวัดเนื่องในโอกาสเดียวกันนี้ ขอให้ช่วยกันดูแล เพราะล้วนเป็นภาพที่ควรเทิดทูน และผู้วาดต่างก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งหมด จึงมีความสำคัญ และล้ำค่า แต่แม้แต่ภาพของผม ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียง ยังเป็นอย่างนี้แล้ว ก็น่าหวาดหวั่นภาพของคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน” อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวย้ำ
สำหรับภาพ “ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก” ดังกล่าว มีความขนา 178X148 ซม.ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัย ระบุว่า เป็นภาพที่ตั้งใจวาดที่สุด และรักมากที่สุด เพราะวาดขึ้นหลังจากได้เข้าถวายงานในหลวงรัชกาลที่ ๙ ด้วยการวาดภาพหนังสือพระราชนิพนธ์พระมหาชนก และเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างวัดร่องขุ่นอีก 2 ปีต่อมา
รูปแบบภาพ “ทรงพระเมตตาต่อไพร่ฟ้าผู้ทุกข์ยาก” เป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงการทรงเป็นเทพที่มีกายทิพย์ลงมาโปรดประชาชน ซึ่งตกอยู่ในน้ำที่มีปลา อันหมายถึงความทุกข์ยาก มีสัญลักษณ์ปีเถาะ ซึ่งเป็นปีพระราชสมภพ ดอกบัวหมายถึงทรงทศพิธราชธรรม มีดอกมณฑาโปรยเปรียบเหมือนโครงการต่างๆ ที่ช่วยเหลือประชาชน เช่น การเกษตร เขื่อน และมีสรวงสวรรค์อยู่เบื้องหลัง