ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 เผยความคืบหน้าคดีรุมทำร้ายลูกชาย ผบ.มทบ.38 ล่าสุดสอบปากคำดารานักแสดงในฐานะพยานแล้ว 2 ราย ทั้ง “อุ้ม ลักขณา” และ “หมาก ปริญ” จากทั้งหมด 11 ราย เตรียมเรียกที่เหลืออีก 9 ราย ขณะเดียวกันทราบตัว 2 พยานสำคัญที่ให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว รอเชิญตัวมาให้ปากคำเมื่อพร้อม ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินและเบาะแสการปล่อยเงินกู้นอกระบบของ “บอล กฤษณะ” เป็นคนละส่วนกับคดีรุมทำร้ายร่างกาย
วันนี้ (6 ธ.ค. 59) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีรุมทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ “เจมส์บอนด์” ลูกชายผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ร้าน “มาลิน สกาย” หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. 59 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งดำเนินการรวบรวมพยานและหลักฐาน รวมทั้งการสอบปากคำพยานทุกฝ่าย ทุกคนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบค้นได้ ล่าสุดมีความคืบหน้ามากพอสมควร แต่การที่จะดำเนินการส่งฟ้องได้นั้นจะต้องใช้เวลา เนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบให้ถี่ถ้วนเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหาย หรือทางฝ่ายผู้ต้องหา จะต้องทำให้เกิดความยุติธรรมที่สุด ขณะเดียวกัน ในส่วนของการทำสำนวนการสอบสวนนั้นจะอยู่ในกรอบระยะเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในการดำเนินการตรวจสอบนั้นขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่าได้เร่งรัด โดยยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาช่วงวันหยุด 3 วัน ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้หยุดนิ่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้หยุดการติดตามตรวจสอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้อง โดยได้ประสานกับทางผู้เสียหายในการค้นหาผู้ที่มาเป็นพยานเพิ่มเติมอีก
ส่วนนักศึกษา 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นคนช่วยเหลือผู้เสียหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังตามหาตัวอยู่และตอนนี้ก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร แต่ก็ต้องให้เวลาเพื่อให้พยานมีความพร้อมที่จะมาให้ปากคำ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถไปบังคับได้ อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับคดีนี้ทางตนไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด เพราะเป็นคดีที่ดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนของการสอบปากคำดารานักแสดงที่อยู่ร้าน “มาลิน สกาย” ในคืนวันเกิดเหตุนั้น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า เวลานี้สอบปากคำในฐานะพยานไปแล้ว 2 คน คือ “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” และ “หมาก ปริญ สุภารัตน์” จากทั้งหมดจำนวน 11 คน เหลืออีก 9 คนที่จะเชิญตัวมาให้ปากต่อไป ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินของ “บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” นั้นก็เป็นอีกส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีการรุมทำร้าย แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ละเลยเนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด และอยากฝากไปถึงผู้ที่รู้เห็นและเห็นข้อมูลผ่านทางโซเชียลฯ ที่เข้าข่ายว่าพอจะเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการสอบสวนคดีนี้ ก็ขอให้ออกมาเป็นพยานโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความคุ้มครอง พร้อมทั้งจะได้นำเข้าสู่การคุมครองพยาน ซึ่งมีเบี้ยเลี้ยงให้กับพยานในระหว่างการคุ้มครอง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการข่มขู่พยานแต่อย่างใด
สำหรับประเด็นที่ว่า “บอล กฤษณะ” มีการออกเงินกู้นอกระบบนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังดำเนินการสืบสวนอยู่ แต่ในส่วนนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นในคดีนี้ แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทำผิดกฎหมายการออกเงินกู้โดยที่เรียกอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดก็ต้องถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของการที่มีลูกน้องไปเก็บรายวัน ไปข่มขู่หรือสร้างความเสียหายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดำเนินการ ซึ่งหากตรวจสอบแล้วว่ามีความผิดจริงก็จะต้องแจ้งข้อหาเพิ่มเข้าไปอีกคดีซึ่งไม่เกี่ยวกันกับในส่วนของคดีทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้มั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดต่อกลุ่มผู้กระทำผิดได้ แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับศาลในการที่จะตัดสินให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป