xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ฯ จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี 2 กษัตริย์ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดนิทรรศการแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรี ของในหลวงไทย 2 พระองค์ เพื่อเทิดพระเกียรติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพลงพระราชนิพนธ์สายฝน หรือ Falling Rain บรรเลงครั้งแรกในงานรื่นเริงของสมาคมฯ เมื่อปี 2489

วันนี้ (3 ธ.ค.) นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือฉวีวรรณ เผยว่า เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ของไทย รวมทั้งเผยแพร่พระอัจฉริยภาพที่งดงาม และความสามารถที่โดดเด่นด้านการดนตรีของทั้ง 2 พระองค์ สมาคมฯ จึงจัดนิทรรศการภาพถ่ายขณะทรงดนตรี ณ อาคารประชุมหมู่บ้านพนาวัลย์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนใจเข้าชม ซึ่งนิทรรศการนี้จะจัดแสดงจนกว่าสมาคมฯ จะมีกิจกรรมใหม่เข้ามา และผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่สมาคมฯ หรือที่บริษัทในเครือฉวีวรรณ

“สมาคมฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) ให้อยู่ในพระราชูปถัมภ์ หลังเกิดการรวมกลุ่มกันของข้าราชบริพารชั้นผุ้ใหญ่ที่มีแนวคิดส่งเสริมการเกษตรของไทยให้พัฒนา และได้จัดประชุมร่วมกันเป็นประจำทุกเดือนหลังมีการก่อตั้งสมาคมฯ ซึ่งในปี 2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในขณะทรงเป็นพระอนุชาธิราช ได้ทรงโปรดเกล้าฯ เพลงสายฝน ให้สมาคมฯ บรรเลงเป็นครั้งแรกในงานลีลาศ ซึ่งจัดขึ้นที่สวนอัมพร”

นางฉวีวรรณ เผยว่า เพลงสายฝน มีความหมายต่อภาคการเกษตรปศุสัตว์ของไทย เพราะนอกจากเนื้อร้อง และทำนองที่มีความไพเราะมากแล้ว เนื้อเพลงที่ว่า “เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว” หมายถึงฝนที่ตกลงมาทำให้ภาคเกษตรมีความสดชื่น เกษตรก็ดีใจ เพราะภาคเกษตร และปศุสัตว์ต้องการฝน

เช่นเดียวกับเพลงใกล้รุ่ง ที่เป็นอีกหนึ่งเพลงพระราชนิพนธ์ ที่สมาคมฯ ได้รับพระราชทาน ซึ่ง เพลงใกล้รุ่ง มีความสำคัญสำหรับภาคการเกษตรปศุสัตว์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ เพราะเนื้อเพลงที่ว่า “ได้ยินเสียงแว่วดังแผ่วมาแต่ไกลไกล” ทำให้นึกถึงเสียงของไก่ที่ร้องในยามเช้า กลุ่มผู้เลี้ยงไก่จึงนิยมนำเพลงนี้มาขับร้อง และมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

“ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ทรงพระราชทาน ทำให้สมาคมฯ ได้พัฒนาจากคนเลี้ยงไก่เล็กๆ น้อยๆ สู่การเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ จนกลายเป็นครัวของโลก สามารถส่งออกจนนำเงินตราเข้าประเทศปีหนึ่งหลายหมื่นล้านบาท และที่ผ่านมา สมาคมฯ ก็ได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการจัดกิจกรรม “องค์อัครศิลปิน หนึ่งเดียวในโลก” ถวายแด่พระองค์ ส่วนการสืบสานพระราชปณิธานนับจากนี้ คือ การมุ่งมั่นทำดีเพื่อพ่อ รวมถึงดำเนินงานตามสิ่งที่พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานไว้” นางฉวีวรรณ กล่าว

อนึ่ง เพลง สายฝน หรือ Falling Rain เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับที่ 3 ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชนิพนธ์ในปี พ.ศ.2489 ขณะทรงเป็นพระอนุชาธิราช โดยเป็นงานทดลองของพระองค์ในจังหวะวอลท์ซ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย ส่วนภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงแต่งร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เคยรับสั่งถึงความลับของเพลงนี้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.2524 ว่า “เมื่อแต่งเป็นเวลา 6 เดือน ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้เขียนจดหมายถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไป เข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง ก็เห็นคนกำลังซักผ้า แล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝน และซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด..ที่จริงความลับของเพลงมีอย่างหนึ่ง คือ เขียนไป 4 ช่วง แล้วก็ช่วงที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เสร็จแล้ว เอาช่วงที่ 3 มาแลกช่วงที่ 2 กลับไป ทำให้เพลงมีลีลาต่ากันไปเป็น 1 3 2 4”




กำลังโหลดความคิดเห็น