ระยอง- ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ปูม้าและหมึกกระเป๋า และกลุ่มประมงเก้ายอด อ.เมืองระยอง ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ถวายเป็นพระราชกุศล 50 วัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานโครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อบำเพ็ญถวายเป็นพระราชกุศล 50 วัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กเก้ายอด ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง โดยมี นายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอเมืองระยอง นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระยอง นายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมงจังหวัดระยอง น.ส.นลินี กาญจนามัย ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และผู้แทนจากกลุ่มบริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด กลุ่มบริษัท โกลว์ จำกัด กลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด กลุ่มบริษัท เอสซีจี เคมิคอล จำกัด ร่วมพิธี โดยมี นายชัยยุทธ เรือนเอี่ยม หัวหน้ากลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กเก้ายอด และนายสุพัฒน์ พร้อมเพรียง ที่ปรึกษากลุ่มประมงเก้ายอด และสมาชิกให้การต้อนรับ
นายสงกรานต์ แสงจันทร์ ประมงจังหวัดระยอง กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดการครองสิริราชสมบัติ 70 ปี พระราชกรณียกิจนานัปการในการวางรากฐานการประมงของประเทศ จากการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำส่วนพระองค์ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทรงริเริ่มการเพาะเลี้ยงปลาหมอเทศ และปลานิล ด้วยพระองค์เอง เพื่อแจกจ่ายให้แก่ราษฎรทั่วประเทศ ทรงมีพระราชดำรัสให้ศึกษาวิจัย เพาะพันธุ์ปลากระโห้ ปลาบึก ปลานวลจันทร์ทะเล และการเลี้ยงกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน ไม่ให้กระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม และพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก เกาะมันใน และได้ทรงปล่อยพันธุ์เต่าทะเล
ด้าน นายสุพัฒน์ พร้อมเพรียง ที่ปรึกษากลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กเก้ายอด กล่าวว่า กลุ่มประมงเก้ายอดแห่งนี้ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อนุรักษ์พันธุ์ปูม้าและหมึกกระเป๋า หมึกกระดอง โดยการเพาะพันธุ์เองในรัศมีห่างจากฝั่งออกไปเป็นทางยาว ในระยะน้ำลึกประมาณ 20 กว่าเมตร ด้านข้างตะวันออก และตะวันตก ด้านละประมาณ 3 กิโลเมตร ปัจจุบัน ประสบความสำเร็จ ทำให้เพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำจำนวนมาก เช่น ปูม้า ปลา และกุ้ง ในอดีตชาวประมงเก้ายอดจั บสัตว์น้ำได้วันละ 500 บาท แต่ปัจจุบันมีรายได้วันละ 5,000-6,000 บาท
ล่าสุด เมื่อวานที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนได้ 6,000 บาทเศษ ส่วนน้องชายได้ 5,000 บาทเศษ รวมทั้งสมาชิกในกลุ่มมีเรือประมงทั้งหมด 20 กว่าลำ แต่ละลำได้คนละ 4,000-5,000 บาท รวมทั้งสิ้นมีรายได้เฉลี่ยวันละเกือบ 100,000 บาท เพียงแค่นำเรือออกจากฝั่งไปเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อก่อนนี้ต้องออกเรือไปถึง 10 กิโลเมตร จึงจะจับได้ และในครั้งนี้ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านเรือเล็กเก้ายอด ต.ปากน้ำ มีกินมีใช้ ฝากขอบคุณประมงจังหวัด ประมงอำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกลุ่มโรงงานที่ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วย
