พิษณุโลก - นายอำเภอร่วมกับ ม.พัน.9 ส่งกำลังพลช่วยชาวนาเก็บข้าวเข้ายุ้งฉางรอจำนำรัฐบาล ด้านกองทัพภาคที่ 3 ทำสัญญาซื้อขายข้าวกับสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัดกว่า 300 ตัน หวังช่วยระบายข้าวในสต๊อกที่มีกว่า 1,000 ตันที่โรงสีไม่ยอมรับซื้อ ทั้งวอนหน่วยงานรัฐช่วยระบายข้าวอีกแรง
วันนี้ (16 พ.ย. ) ว่าที่ ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะสิริ นายอำเภอเมือง พ.ท.ประวิธ ธรรมชาติ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 9 ร.อ.อุบล พุทธรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรพิษณุโลก เดินทางไปยังอาคารอเนกประสงค์ บ้านวังเป็ด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พบเกษตรกรชาวนาตำบลท่าโพธิ์ อ.เมือง นำข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 มายังลานตากข้าว โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ปกครอง ช่วยขนข้าวจากลานตากขึ้นรถไปเก็บยุ้งฉางเตรียมรอเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ว่าที่ ร้อยตรี อิทธิพล บุบผะสิริ นายอำเภอเมือง กล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการรับจำนำข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกรและโครงการชะลอการขายข้าวเปลือก ซึ่งชะลอการขายก็คือให้ชาวนานำข้าวมาตากให้แห้งเพื่อลดความชื้นลง ก่อนนำไปเก็บในยุ้งฉางของตนเองไม่ต้องรีบขายข้าว ล่าสุดกำลังแจ้งไปยัง ธ.ก.ส.พิษณุโลกให้มาพูดคุยกับชาวนาถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขและราคารับจำนำข้าว
พ.ท.ประวิธ ธรรมชาติ ผบ.ม.พัน.9 กล่าวว่า ได้สั่งการให้กำลังพลจากกองร้อยออกปฏิบัติการช่วยเหลือชาวนาที่ได้ร้องขอให้นำกำลังพลมาที่บริเวณลานตากข้าวอาคารอเนกประสงค์ บ้านวังเป็ด อ.บางระกำ โดยให้ช่วยกรอกและบรรจุข้าวเปลือก หลังจากที่ดำเนินการตากแห้งเรียบร้อยแล้วขนขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปเก็บยังยุ้งฉางของชาวนาต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระต้นทุนการผลิตให้แก่ชาวนา
ด้านนายเสน่ห์ พรมส้มซ่า ชาวนาจาก ม.8 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ได้นำข้าวหอมมะลิ 105 มาตากที่ลานเตรียมนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง หลังทำนาในพื้นที่ 50 ไร่ ปลูกเก็บเกี่ยวไปแล้ว 25 ไร่ ได้ข้าวเปลือก 18 ตัน แบ่งขายสดแล้วตันละ 6,050 บาท ส่วนอีกครึ่งนำมาตากให้แห้งเพื่อให้ได้ความชื้นไม่เกิน 15% เพราะมีความตั้งใจจะเข้าร่วมรับจำนำข้าวกับรัฐบาล ทราบว่าให้เกษตรกรที่มียุ้งฉางจำนำข้าวได้ในโควตา 15 ไร่ ไร่ละ 60 ถัง ยังได้ราคาที่มากกว่าขายสดมาก ถ้าอนาคตราคาข้าวเปลือกแพงขึ้นก็ไถ่ถอนไปขายได้
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองพิษณุโลก ได้มีการลงนามทำสัญญาซื้อขายข้าวเปลือกระหว่างกองทัพภาคที่ 3 กับกลุ่มสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม เพื่อช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ และซื้อข้าวไปเลี้ยงกำลังพลหน่วยขึ้นตรง
พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้กองทัพภาคที่ 3 ทำสัญญาข้อตกลงสั่งซื้อข้าวเปลือกจากสหกรณ์การเกษตรพรหมพิรามเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมนายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด ผู้ได้รับมอบอำนาจในการทำสัญญาซื้อขายข้าวเปลือกในครั้งนี้
กองทัพภาคที่ 3 ตกลงซื้อข้าวเปลือกจากสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เลขที่ 89 ม.1 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เป็นข้าวหอมจังหวัด (ข้าวหอมมะลิ 105) จำนวน 40 ตัน ข้าวเปลือก ซึ่งมีความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ในราคาตันละ 9,500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 380,000 บาท โดยจะมีการส่งมอบในวันเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายเพื่อนำข้าวสารที่สีได้แจกจ่ายให้กับหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 นำไปเลี้ยงกำลังพลทหาร
นายเกรียงศักดิ์ รสดี ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ฯ รับซื้อข้าวหอมจังหวัด (ข้าวหอมมะลิ 105) ราคาตันละ 6,200-6,500 บาทจากสมาชิก 3,600 คน พื้นที่ปลูก 3 แสนไร่ โดยที่สหกรณ์ฯ ยังไม่รู้ระบายไปตรงไหน เนื่องจากโรงสีไม่ยอมรับซื้อ แต่ละวันมีข้าวเข้าโกดังสหกรณ์วันละ 100 ตัน กรณีกองทัพภาคที่ 3 ทำสัญญาซื้อข้าวจากสหกรณ์ฯ 300 กว่าตันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เป็นการระบายข้าวล็อตออกไปได้มาก เพราะปัจจุบันสหกรณ์ฯ มีสต๊อกข้าวอยู่ 1,000 กว่าตัน ส่วนหน่วยงานรัฐอื่นยังไม่มีติดต่อซื้อข้าวล็อตใหญ่เหมือนกองทัพภาคที่ 3
