ศูนย์ข่าวศรีราชา-สองพ่อลูกบุคคลในภาพที่เคยรับเสด็จ และถวายสิ่งของแด่ในหลวง ร.๙ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2509 เผยถือเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่ได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด เพราะพระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
นายอวยพร สวัสดีมงคล อายุ 79 ปี อยู่บ้านเลขที่ 687 ซ.จิตประสงค์ ถ.พิพิธ ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี พร้อมกับลูกสาว น.ส.บารมี ธนาประชุม อายุ 53 ปี นำพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดหอพระพุทธสิหิงส์ และทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2509 โดยมีตนเอง และลูกสาวกำลังเฝ้ารับเสด็จ และถวายสิ่งของอย่างใกล้ชิด พร้อมกับธนบัตร เหรียญกษาปณ์ และพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทั้งสองสะสมไว้อีกจำนวนมาก
นายอวยพร กล่าวถึงความรู้สึกในวันนั้นว่า พอทราบว่าทั้งสองพระองค์จะเสด็จมาที่จังหวัดชลบุรี ก็ไปเฝ้ารับเสด็จ ภายหลังพระองค์ทรงเปิดหอพระพุทธสิหิงส์แล้ว ได้เสด็จพระราชดำนินทรงเยี่ยมราษฎรบริเวณถนนวชิรปราการ ตนเองกับลูกสาว ซึ่งยืนอยู่บริเวณหน้าธนาคารออมสิน จึงมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ลูกสาวถวายพระพุทธรูป ปางลีลา สูง 5 นิ้ว แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต
จากวันนั้นตนเองได้น้อมนำพระราชดำรัสเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเรื่องการอนุรักษ์ป่าไม้ โดยตนเองได้ไปปลูกต้นสักไว้ที่จังหวัดน่าน ประมาณ 10 ไร่ และตั้งใจจะไม่ตัดตลอดชีวิต พระองค์ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลก ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรอย่างแท้จริง
ด้าน น.ส.บารมี ธนาประชุม ซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 3 ปี ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังเห็นภาพของตัวเองเมื่อ 50 ปีก่อนว่า รู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีมากที่สุดที่ได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้น ได้น้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์เกี่ยวกับการใช้สติ และความมุ่งมั่นจริงใจในการทำงานมาปรับใช้ในชีวิต
ซึ่งหลังทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่าน ก็หวังให้เป็นแค่ข่าวลือ แต่เมื่อเป็นจริงทำให้เสียใจมากที่พระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว แต่พระองค์ท่านคงอยู่บนสรงสวรรค์ และจะดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริตลอดไป