อุดรธานี - ผู้ว่าฯ อุดรธานีนัดถกหัวหน้าส่วนงานเกี่ยวข้องวางแผนเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม อ.น้ำโสม-อ.นายูง เผยมีบ้านเรือนเสียหายรวมกว่า 2,000 หลังคา ถนน-สะพานชำรุดหลายจุด สั่งระดมกำลังเข้าซ่อมแซมให้สามารถใช้ได้ภายใน 12 พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 9 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา อ.นายูง และ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ประสบกับอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นา ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
ล่าสุด นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด แขวงการทาง ทางหลวงชนบท ชลประทาน ปภ. พมจ. เข้าหารือที่จวนเมื่อช่วง 19.30-21.00 น. คืนที่ผ่านมา เพื่อสรุปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในเขตอำเภอนายูง และอำเภอน้ำโสม
โดยผลการประชุมสรุปว่า อำเภอน้ำโสม ประสบภัย 7 ตำบล 84 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับความเดือดร้อน 1,000 ครัวเรือน ถนนชำรุด 3 สาย คอสะพานขาด 1 แห่ง ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดตามลำดับ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งกาชาดอุดรธานีมอบเงินช่วยค่าปลงศพแล้ว 5,000 บาท
ส่วนที่อำเภอนายูง ประสบภัย 4 ตำบล 42 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,120 ครัวเรือน ถนนชำรุด 5 สาย คอสะพานขาด 5 แห่ง ขณะนี้ฝนหยุด ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลงตามลำดับเช่นกัน แต่มีเด็กสูญหาย 1 คน ยังค้นหาไม่พบ
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือขณะนี้ว่า ศูนย์ ปภ.ภาค 14 ได้ส่งเรือท้องแบน 7 ลำ และคนประจำเรือ 8 นาย เข้าในพื้นที่ พร้อมกำลังพลจาก มทบ.24 และตำรวจ/อาสาสมัครกู้ภัยต่างๆ เข้าสนับสนุนการทำงานของอำเภอ เหล่ากาชาดฯ และ ปภ.จว.สนับสนุนถุงยังชีพเยี่ยมปลอบขวัญราษฎร 2 อำเภอ อำเภอละ 300 ชุด โดยวันนี้ (10 พ.ย.) คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดลงเยี่ยมเยียนพร้อมเสริมถุงยังชีพอีกอำเภอละ 300 ชุด ส่วนผู้เสียชีวิตทาง ปภ./พมจ.จะช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์เพิ่มเติมอีก
พร้อมกันนี้ ทีมงานแขวงการทางอุดรฯ 1 จะได้เข้าสำรวจคอสะพานที่ชำรุดในเขตอำเภอนายูง 3 แห่ง คือ สาย 2348 (1 จุด) และสาย 2376 (2 จุด) โดยได้ขอสนับสนุนสะพานแบริ่งจากศูนย์ฯ บำรุงทางขอนแก่น และจะทำการติดตั้งให้สามารถใช้งานได้อย่างช้าภายในวันที่ 11 พ.ย. 59 นี้ ขณะที่สำนักงานทางหลวงชนบทอุดรฯ สำรวจและเตรียมเครื่องจักรกล พร้อมเข้าซ่อมบำรุงคอสะพานในเขตอำเภอนายูงที่ขาด 2 จุดในวันนี้ (10 พ.ย.) คาดว่าจะใช้การได้ภายใน 11 พ.ย. 59 เช่นกัน
นอกจากนี้ อบจ.อุดรฯ เตรียมสำรวจเพื่อซ่อมแซมคอสะพานที่ขาดบนสายทางน้ำโสม-นายูง คาดว่าจะแล้วเสร็จใช้การได้ใน 11 พ.ย. 59, ชลประทานจังหวัดจะเข้าสำรวจและซ่อมคันกั้นน้ำฝายห้วยน้ำรางที่ชำรุดจากน้ำกัดเซาะ โดยฝายนี้อยู่ในพื้นที่อำเภอนายูง ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จภายใน 12 พ.ย. 59
ทางด้านการสงเคราะห์บ้านเรือนผู้ประสบภัยที่ชำรุดเสียหายจากน้ำไหลหลาก ท้องถิ่นต่างๆ สามารถให้ความสงเคราะห์ได้ทันที หากมีงบฯ ไม่เพียงพอให้ร้องขอผ่านนายอำเภอ ทางจังหวัดจะใช้งบฯ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้การสงเคราะห์เป็นเงินสด ตามความเสียหายจริงแต่ไม่เกินหลังละ 33,000 บาท
อีกทั้งเหล่ากาชาดฯ ยังจะช่วยค่าซ่อมบ้านเพิ่มได้อีกไม่เกิน 10,000 บาท/หลัง รวมทั้ง สนง.พมจ.ช่วยได้อีกรายละ 2,000 บาท
นายชยาวุธกล่าวอีกว่า สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากใน 2 อำเภอข้างต้นขณะนี้ได้เริ่มคลี่คลายเพราะไม่มีฝนตกซ้ำลงมาอีก ทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลงตามลำดับ ตลอดวันนี้(10 พ.ย.) ท้องถิ่นต่างๆ ต้องเร่งสำรวจรายละเอียดความเสียหายเพิ่มเติม ในส่วนจังหวัดกำหนดแผนให้มีการจัดประชุม กชภอ. ทั้งสองอำเภอภายใน 15 พ.ย เพื่อยืนยันความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน จากนั้นจังหวัดจะเร่งประชุม กชภจ.ใน 17 พ.ย เพื่ออนุมัติวงเงินสงเคราะห์ตามคำขออำเภอ
จากนั้นจะดำเนินเรื่องเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์แก่ราษฎรให้ได้ภายใน 23 พ.ย. เฉพาะกรณีที่เกินกำลังฐานะการคลังของท้องถิ่นที่จะช่วยเหลือตนเองได้เอง และประสงค์จะขอให้ใช้งบฯ ของจังหวัด หากหน่วยงาน/องค์กรใดประสงค์จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ สามารถติดต่อนายอำเภอท้องที่โดยตรง หรือประสานผ่าน สนง.ปภ.จว. คาดว่าอย่างช้าภายในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย.นี้ถนนที่ได้รับความเสียหายทั้งใน อ.น้ำโสม และ อ.นายูงจะสามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ