ชัยนาท - ชาวนาชัยนาท น้อมนำเกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ดำเนินชีวิตนับ 10 ปี ช่วยให้ครอบครัวมีรายได้ไม่ขัดสน แม้ในยามหน้าแล้ง หรือในยามที่ราคาข้าวตกต่ำ
วันนี้ (9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายลำพอง ภู่วงษ์ อายุ 54 ปี ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านหนองแค ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท และเป็นเกษตรกรดีเด่นจังหวัดชัยนาท สาขาทำนา ปี 2557 ได้น้อมนำการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้เป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว ช่วยให้ครอบครัวมีรายได้ตลอดทั้งปี ไม่ขัดสน แม้ในยามหน้าแล้ง หรือในยามที่ราคาข้าวตกต่ำเช่นปัจจุบัน
นายลำพอง ภู่วงษ์ เปิดเผยว่า ตนได้น้อมนำการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 โดยแบ่งที่ดิน 7 ไร่ เป็นบ้านอยู่อาศัย 1 ไร่ ขุดสระน้ำเลี้ยงปลา 1 ไร่ ที่เหลือ 5 ไร่ ทำนาปลูกข้าว ส่วนตามคันนาก็ปลูกไม้ผล เช่น มะพร้าว มะม่วง ฝรั่ง กล้วย เอาไว้กิน และเก็บขาย รวมทั้งปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเอง ส่วนมะพร้าวที่ปลูกไว้ 30 ต้น จะนำมาทำขนมเทียน ขนมเข่ง และขนมตามงานเทศกาลต่างๆ ส่งขายให้แก่ชาวบ้านเพื่อเป็นรายได้เสริม
และในปี 2554 ได้เช่าที่นา จำนวน 22 ไร่ หันมาทำนาแบบไม่เผาตอซังข้าว และใช้สารชีวภาพในการกำจัดแมลง ใช้แหนแดงหว่านในนาข้าวปลูกแบบเปียกสลับแห้ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำลงได้ 40% และทำให้มีต้นทุนการผลิตลดลง อยู่เพียงไร่ละ 3,500 บาทเท่านั้น ไม่เหมือนกับการปลูกข้าวแบบใช้สารเคมีที่มีต้นทุนการผลิตสูงถึงไร่ละ 6,000 บาท
ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่นายลำพอง เดินตามรอยเท้าพ่อ ทำให้ครอบครัวมีรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในหน้าแล้งก็ยังปลูกข้าวได้ เพราะมีน้ำจากบ่อบาดาล มีปลาในบ่อให้จับกินจับขาย มีไม้ผลให้เก็บขาย และนำมาทำขนมขายเป็นรายได้เสริม ทำให้ในแต่ละปีจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 600,000 บาท แม้ในปีนี้ที่ราคาข้าวตกต่ำเหลือเพียงตันละ 6,000 บาท แต่นายลำพอง ก็ยังขายข้าวได้กำไร
ปัจจุบันที่บ้านของ นายลำพอง ได้จัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้และพัฒนาชาวนารุ่นใหม่ เพื่อให้คำปรึกษา และแนะนำการทำนาโดยใช้สารชีวภาพ และการทำนำแบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว เพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งมีเกษตรกรทั้งในจังหวัดชัยนาท และต่างจังหวัดเข้าไปศึกษาเรียนรู้แล้วกว่า 1,000 คน
นายลำพอง ยังแนะนำให้ชาวนาทั่วประเทศปรับเปลี่ยนวิธีการทำนาจากแบบเดิมที่เน้นใช้สารเคมีและการใช้น้ำปลูกข้าวในปริมาณมากๆ ซึ่งทำให้มีต้นทุนการผลิตสูง 6,000-7,000 บาทต่อไร่ แนะนำหันมาปลูกข้าวแบบใช้สารชีวภาพ รวมทั้งศึกษาโรค และแมลงในนาข้าวเพื่อการดูแลที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยปรับลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลงมาได้ และจะทำให้การทำอาชีพชาวนามีชีวิตรอดอยู่ได้แม้ในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ
ทั้งนี้ หากชาวนาท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถาม หรือเข้าไปเรียนรู้ได้ที่ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาชาวนารุ่นใหม่ ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท โทรศัพท์ 08-7194-3101