พระนครศรีอยุธยา - ทีมงานรุกขกร และหมอต้นไม้จากกรมป่าในกรุงเก่าสุดเจ๋ง ช่วยกันทำบายพาสต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 250 ปี ที่บริเวณวัดบรมพุทธาราม ให้กลับมายืนต้นได้อีกครั้งหลังถูกลมพายุพัดล้มเมื่อ 10 ต.ค.59 ผู้ว่าฯ อยุธยา เผยในจังหวัดมีต้นไม้อายุเกินกว่า 100 ปี 16 ต้น จาก 16 อำเภอ สั่งนายอำเภอดูแล
วันนี้ (7 พ.ย.) นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้นำต้นมะขามเล็ก จำนวน 5 ต้น มาปลูกล้อมรอบต้นมะขามที่มีอายุ 250 ปี ที่บริเวณวัดบรมพุทธาราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา หลังต้นมะขามดังกล่าวได้ถูกลมพายุพัดจนล้มลงเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากต้นมะขามมีอายุมาก ประกอบกับรากเป็นเชื้อรา
หลังจากต้นมะขามดังกล่าวล้มลง ทางทีมงานรุกขกร จากกรมป่าไม้ จึงได้เร่งดำเนินการทำบายพาส และค้ำยันจนทำให้ต้นมะขามสามารถยืนต้นได้ได้อีก และล่าสุดพบว่า ต้นมะขามได้แตกใบอ่อนแล้ว ดังนั้น ในวันนี้ทางจังหวัดจึงได้นำมะขามเล็ก จำนวน 5 ต้น มาทำการปลูกรอบๆ บริเวณต้นใหญ่เอาไว้เพื่อให้รากของต้นเล็กช่วยดูดซึมอาหาร และน้ำไปเลี้ยงต้นใหญ่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าต้นมะขามต้นดังกล่าวจะมีชีวิตต่อไปได้
“ปัจจุบันในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีต้นไม้ที่มีอายุเกินกว่า 100 ปี จำนวน 16 ต้น จาก 16 อำเภอ ซึ่งได้กำชับให้อำเภอดูแลแล้ว เพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติป่าไม้ให้อยู่คู่กับพี่น้องประชาชน รวมถึงให้นักเรียนนักศึกษาได้เขามาศึกษาเรียนรู้ได้อีกด้วย” ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าว
อนึ่ง สำหรับต้นมะขามดังกล่าวเป็นต้นมะขามก่าแก่มีอายุกว่า 250 ปี อยู่ที่บริเวณวัดบรมพุทธาราม ติดเขตรั้วของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ถูกลมพายุพัดจนล้มลงเมื่อเช้ามืดวันที่ 10 ตุลามคม 2559 ที่ผ่านมา มีขนาดความสูงกว่า 20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 7.60 เมตร มีน้ำหนักกว่า 70 ตัน แต่โชคดีที่ซากโบราณสถานที่อยู่ในบริเวณวัดได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลังจากต้นมะขามล้มลง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยทีมงานรุกขกร และหมอต้นไม้จากกรมป่าไม้กว่า 20 คน ได้เร่งช่วยกันกู้ต้นมะขามยักษ์ให้ตั้งต้นขึ้นอีกครั้ง