นครปฐม - หนุ่มพิการโปลิโอชาวกาญจนบุรี ที่เดินจากบ้านเกิดสู่พระบรมหาราชวัง เพื่อไปกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช น้อมรับคำวิจารณ์หลังเป็นข่าวเดินริมถนนทำรถติด ทีมงานปรับแผนไม่เอารถขับตาม แต่จอดดูแลข้างทางเป็นระยะ เผยไม่ได้สร้างภาพแต่มาเพราะอยากให้รู้ว่ารักพ่อ และเก็บความรู้สึกเหนื่อยของพ่อ 70 ปีเป็นแรงใจ บอกหลังเสร็จงานจะกลับไปทำอาหารเลี้ยงเด็กขาดโอกาส จากเงิน และสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาตลอดทาง
นายแดง รื่นสุสาร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ต.แก่งเซี่ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มีความพิการเป็นโปลิโอได้เดินด้วยการพยุงด้วยไม้เท้าเพื่อไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ประกบให้การช่วยเหลือในการเดินทาง และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ยานพาหนะที่สัญจรไปมาบนถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนี
โดยการเดินทางวันนี้เข้าสู่วันที่ 7 ของการเดินทางทั้งหมด ระยะรวมไม่น้อยกว่า 120 กิโลเมตร ซึ่งเป็นวันท้ายๆ ของการเดินทาง หลังจาก นายแดง ได้เริ่มเดินเท้าออกมาจากบ้านพักในตำบลแก่งเซี่ยน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ออกมารอรับ และให้น้ำ หรือเครื่องใช้ต่างๆ สำหรับการเดินทาง รวมถึงประชาชนที่ขับรถผ่านมาได้จอดรถเพื่อนนำของและให้กำลังใจไม่ขาดสายเช่นกัน
นายแดง บอกว่า วันนี้เป็นวันที่ 7 สำหรับการเดินทางที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะถึงพระบรมมหาราชวัง และที่ผ่านมา 2 วัน เดินได้ระยะทางที่พอใจมาก ตอนนี้จิตใจ และร่างกายยังพร้อม อยากให้ถึงไวๆ และตลอดเส้นทางมีกำลังใจมามากมาย ผมไม่ท้อ และจะไปให้ถึงตามที่ตั้งใจ กำลังใจที่ได้คือ น้องๆ ทีมงานได้เกิดเพลงเกี่ยวกับพ่อหลวง ไล่หลังมาตลอดทางทำให้ได้ยินแล้วมีกำลังใจมาก พลังมาเยอะมากเพื่อได้ยินเพลงของพ่อ
“น้องทีมงานมาบอกว่า หลังเป็นข่าวมีกระแสหลากหลายในอินเทอร์เน็ต บางคนก็บอกว่าผมมาเดินทำให้รถติด ก็ขอน้อมรับ และขอโทษถ้าจะมีคนมองเป็นแบบนี้ และตอนนี่ทีมงานก็ปรับการเดินให้ลงเดินริมทางมากที่สุด จุดไหนมีไหลทางลึกเราจะเดินไปทันที แต่จะยากหน่อย เพราะทางลูกรังจะมีหินคม ก็ต้องอดทน วันหนึ่งก็จะใช้ถุงเท้าประมาณ 10-13 คู่ ตอนนี้ใช้ไป 50-60 คู่แล้ว เราต้องทำให้ไม่เกิดปัญหา แต่อยากจะมาเดินแสดงออกว่าผมรักในหลวง และอยากรู้ว่า 70 ปี ที่ในหลวงท่านทรงทำงานให้เรา ท่านเดินไปทุกที่ท่านเหนื่อยแค่ไหน ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นและจะจดจำสิ่งนี้ไว้ให้นานที่สุดในชีวิต หลังกลับไปจะกลับไปทำอาหารให้เด็กๆ ไร้โอกาส ได้กินกันก็จะเอาเงินที่รับบริจาค และสิ่งของให้เด็กๆ ด้วย ก่อนหน้านี้ ก็เอาของส่งให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครไปแจกโรงทานก่อนแล้ว”
ด้านเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ร่วมเดินเท้า บอกว่า หลังมีกระแสว่าเรามาทำให้รถติด ซึ่งก่อนหน้าได้ใช้รถตู้ขับตาม ก็ได้ปรับเป็นให้รถจอดเป็นระยะที่ริมทาง พอถึงจุดที่ไกลพอสมควร และรถว่างก็จะขับไปจอดดักหน้าเป็นระยะ ซึ่งตลอดทางก็จะมีเจ้าหน้าที่ 2 นาย เดินประกบให้การช่วยเหลือไว้แล้ว
“ในวันสุดท้ายที่จะเดินบนถนนบรมราชชนนีเป็นหลัก ในเช้าวันจันทร์ที่จะมีประชาชนเดินทางบนถนนมาก เราได้ปรับให้มีการเดินตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งแต่ตี 2 หรือตี 3 เพื่อให้ได้ระยะทางไม่กีดขวางการจราจร และไม่เจอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งคาดว่าวันนี้จะถึงที่หมายได้ แต่ต้องดูอากาศและสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ทุกคนมีกำลังใจ และพยายามจะส่งให้พี่แดงถึงที่หมายตามความตั้งใจ และสมหวังกับคนที่ส่งใจช่วยมาตลอดด้วย” เจ้าหน้าที่ที่เดินร่วมทางกล่าวปิดท้าย