นครปฐม - หนุ่มใหญ่พิการชาวกาญจนบุรี วัย 47 ปี แบกสังขารบนไม้เท้า 2 ข้าง เดินพยุงร่างจากกาญจนบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปกราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง โดยวันนี้เดินมาถึงนครปฐมแล้ว เผยมาด้วยหัวใจที่รักพ่อ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ ตามประกบดูแลสุขภาพตลอดระยะเวลา ตั้งเป้าเร่งเดินทางอีก 2 วันให้ถึง
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ถนนเพชรเกษม เขตอำเภอเมืองนครปฐม นายแดง รื่นสุสาร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ต.แก่งเซี่ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มีความพิการเป็นโปลิโอ ได้เดินเท้าด้วยการพยุงด้วยไม้เท้าเพื่อไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระบรมมหาราชวัง โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ 2 นาย พร้อมรถปฐมพยาบาลตามประกบให้การช่วยเหลือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และหาเสื้อผ้า พร้อมอุปกรณ์สำหรับไม้เท้าเพื่อพยุงร่างกายตลอดเส้นทาง
นายแดง บอกว่า ตนเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่กำเนิด พิการร่างกายเป็นโรคโปลิโอ โดยบิดา มารดา เสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็ได้อาศัยอยู่กับพี่น้องจนเติบโตด้วยการประกอบอาชีพรับจ้างตอนต้นไม้ ถ้ามีงานก็จะได้รายได้วันละ 300 บาท แต่ก็ไม่มีทุกวัน ซึ่งตอนนี้ได้มีลูกชาย 1 คน ที่ตนเลี้ยงดูมาคนเดียวตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่แม่เขาทิ้งไปตั้งแต่ 3 ขวบ โดยทุกวันนี้ตนได้ยึดเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาดำเนินชีวิตโดยตลอด และต่อสู้แบบไม่ย่อท้อ กระทั่งได้มาทราบข่าวการสวรรคตของพ่อหลวง นับตั้งแต่วันนั้นก็ร้องไห้มาตลอด และตั้งใจเดินด้วยขาพิการด้วยการใช้แขน 2 ข้าง พยุงไปให้ถึงที่จัดพระราชพิธีให้ได้ด้วยตัวเอง
“ผมรักในหลวงมาก (น้ำตาคลอ) รักมากผมทำใจยังไม่ได้กับเรื่องนี้ และจะใช้เวลาคิดว่า 2 วันจะเดินไปหาพระองค์ท่านด้วยตัวเอง กระทั่งไปบอกญาติพี่น้องซึ่งเขาก็ได้ไปหาภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง และอัดกรอบพลาสติกมาให้ และมีนายก อบต.แก่งเซี่ยน และนายทหารจาก พล.ร.9 คอยมาสอบถาม และให้การประสานงานในการเดินครั้งนี้ ตลอดทางมีคนให้น้ำให้ของมากมาย ตั้งแต่ออกเดินทางวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนนี้ 5 วันแล้ว แรงผมยังมี และมีพลังมากขึ้น โดยอยากจะให้ถึงใน 2 วันนี้ คือ วันที่ 7 พฤศจิกายน แต่ก็ต้องดูอากาศก่อน ซึ่งตลอดทางมีคนให้กำลังใจ และของกินน้ำดื่มมา 2 คันรถได้ ตอนนี้ได้มอบให้กู้ชีพนำไปบริจาคโรงทานแล้ว”
นายแดง กล่าวต่อว่า “ทุกวันนี้ลูกชายผมเพิ่งออกจากเรียน ม.2 เพราะรายได้ผมก็ไม่ค่อยมี จะมีก็ช่วงหน้าฝนที่คนตอนต้นไม้กัน ถ้าเข้าหน้าหนาวก็คิดว่ารายได้คงจะหายไป ลูกชายก็เลยออกจากการเรียนไว้ก่อน ซึ่งผมบอกเสมอว่า แม้ว่าเราจนก็ต้องเป็นคนดี และดีแบบที่ในหลวงท่านให้แนวทางไว้” นายแดง กล่าว
ทั้งนี้ ในการเดินเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากร่างกายของนายแดง ขาทั้ง 2 ข้างลีบไม่มีแรง ใช้ได้แค่เป็นที่พยุงในการเคลื่อนตั วและต้องใช้มือ 2 ข้างพยุงเพื่อเคลื่อนร่างกายไปข้างหน้า โดยวันหนึ่งสามารถเดินได้ประมาณไม่เกิน 20 กิโลเมตร และเดินได้คราวละ 1 กิโลเมตรก็ต้องพักเป็นระยะ โดยไม่สามารถสวมรองเท้าได้ แต่ใช้การสวมถุงเท้าแทน เมื่อเดินจนขาดก็จะเปลี่ยนคู่ใหม่ และมีการกินยาทุกวันเพื่อลดอาการปวด และอักเสบ ซึ่งมีประชาชนที่พบเข้ามาให้กำลังใจตลอดเส้นทาง และเป็นภาพที่หลายคนเห็นแล้วอดที่จะน้ำตาคลอกับความจงรักภักดีต่อพ่อหลวงของชายพิการรายนี้