บุรีรัมย์- สลด ชาวนาบุรีรัมย์ วัย 51 ปี ป่วยโรคซึมเศร้ามานานกว่า 3 ปี กลับจากเกี่ยวข้าวในนาผูกคอบนขื่อภายในห้องโถงเสียชีวิตคาบ้าน เมีย และลูกนำรถขนข้าวที่เกี่ยวกลับมา เปิดบ้านช็อกพบสามีกลายเป็นศพแล้ว ตร. แพทย์ตรวจพิสูจน์ศพครอบครัวไม่ติดใจ พร้อมยันสามีผูกคอตายไม่เกี่ยวกับราคาข้าวตกต่ำ
วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.ไชยา สระโสม สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 73 หมู่ 16 ต.หนองตราด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ นายเสงี่ยม คุดรัมย์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านอาชีพทำนา ใช้เชือกปอที่ชาวนาใช้มัดฟาง หรือใช้เย็บกระสอบข้าวรวมกัน 4-5 เส้น ผูกบนขื่อห้องโถงภายในบ้าน ก่อนใช้เก้าอี้ขึ้นไปผูกคอตัวเองเสียชีวิต ท่ามกลางความเศร้าสลดของ นางหนูหวิน คุดรัมย์ ภรรยา ลูก พร้อมญาติพี่น้อง และประชาชนในหมู่บ้านที่มามุงดูจำนวนมาก
จากการสอบถาม นางหนูหวิน ภรรยา ผู้ตายให้การว่า ผู้ตายคือ นายเสงี่ยม ซึ่งเป็นสามี พร้อมตนและลูกได้ออกไปที่นาท้ายหมู่บ้านตั้งแต่เช้าประมาณ 05.00 น. เพื่อดูรถเกี่ยวข้าวที่จะนำมาเก็บไว้ที่ยุ้งฉาง ต่อมาเ มื่อเวลาประมาณ 14.00 น. สามีบอกว่าจะกลับบ้านเพื่อไปปล่อยวัวออกไปกินหญ้า พอเวลา 16.00 น. รถเกี่ยวนวดข้าวเกี่ยวข้าวเสร็จได้นำข้าวเปลือกกลับมาบ้าน มองไปรอบบ้านไม่พบสามี
จึงตามหาเปิดประตูเข้าไปภายในบ้านแทบช็อก เมื่อพบว่า สามี ได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองบนขื่อห้อยเสียชีวิตแล้ว จึงได้ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยนำร่างสามีลงมาแต่สายเกินไป ก่อนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง มาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว
นางหนูหวิน ภรรยาผู้ตายยังได้ให้การอีกว่า นายเสงี่ยม ผู้ตายมีอาการป่วยทางจิต หรือเป็นโรคซึมเศร้า มานานกว่า 3 ปีแล้ว และได้ไปรับยาที่แผนกจิตเวช โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ มารับประทานตลอด พักหลังสังเกตว่าสามี มีอาการเครียดบ่อย แต่ไม่นึกว่าสามีจะคิดสั้นผูกคอตาย พร้อมยืนยันสาเหตุที่สามีคิดสั้นผูกคอเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับปัญหาราคาข้าวตกต่ำในขณะนี้ น่าจะเกิดจากภาวะโรคซึมเศร้าที่สามีป่วยอยู่มากกว่า
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยแพทย์เวรได้เข้าชันสูตรพลิกศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย และร่องรอยการต่อสู้ ส่วนภรรยา และญาติไม่ติดใจเอาความ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป