ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์แนะเกษตรกรชะลอขายข้าวช่วงราคาตก

กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ประชุมด่วนวางแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร แนะชะลอขายข้าวหอมมะลิช่วงราคาตกต่ำ ย้ำให้รอมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ขณะที่เกษตรกรกาฬสินธุ์วอนรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำในรอบ 10 ปี และช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์พืชไร่

วันนี้ (31 ต.ค. 59) นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนรับทราบสถานการณ์ข้าว รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับเกษตรกร และแก้ไขปัญหารถเกี่ยวนวดข้าว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการโรงสีข้าว และองค์กรเกษตรในจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วม ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ปีการผลิต 2559/2560 และบางพื้นที่มีปัญหาราคาข้าวถูกกดราคาต่ำ ถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด ขณะนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังร่วมกันวางแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรควรชะลอการนำผลิตข้าวออกมาจำหน่วยในช่วงนี้ไปก่อนจนกว่ารัฐบาลจะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป

สำหรับพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ในปีฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวปี 2559/2560 คาดว่าจะมีผลผลิตข้าวทั้งหมดประมาณ 520,000 ตัน แยกเป็นข้าวเหนียวประมาณ 370,000 ตัน และข้าวเจ้า 150,000 ตัน ซึ่งการนำข้าวออกมาขายช่วงเริ่มต้นฤดูกาลของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ขณะนี้จะเป็นข้าวหอมมะลิ กข 15 ซึ่งรับซื้อกันในราคาตันละ 6,000-7,000 บาท หรือกิโลกรัมละ 6-7 บาท แต่ก็มีจำนวนน้อย เพราะพื้นที่ปลูกข้าวและผลิตข้าวส่วนใหญ่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ในปี 2559/2560 จะเป็นข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว

ดังนั้น ผลกระทบจากราคาข้าวตกต่ำจึงยังไม่กระทบต่อเกษตรกรพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์มากนัก เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้อย่างแน่นอน

ด้านนายประเทือง สะตาเขต อายุ 63 ปี ชาวนาบ้านโพนสว่าง ม.11 ตำบลโนนสูง อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เพราะขายข้าวได้ราคากิโลกรัมละ 6 บาทนั้นต่ำสุดในรอบ 10 ปี หากหักค่าปุ๋ย ค่าแรงแล้ว บางรายขาดทุน แต่จำเป็นต้องขายเพราะไม่มีที่เก็บ และต้องนำเงินไปใช้หนี้ค่าปุ๋ยและค่ารถเกี่ยวข้าว

ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำไปมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ให้ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 8-9 บาทก็ยังดี และอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องเมล็ดพันธุ์พืชไร่ เพราะไม่เหลือเงินจะนำไปซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกทำมาหากินต่อไปได้