ตำรวจมืดแปดด้านตามรอยคนร้ายใช้รถยนต์กระบะกระชากตู้บริการเงินด่วน

ฉะเชิงเทรา - ตำรวจบางคล้า ยังมืดแปดด้าน หลังห้างฯ ดังยึดนโยบายสุดเขียมประหยัดแบบรอบด้านจนไร้พยานหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และแสงสว่างในที่เกิดเหตุ เผยตำรวจทำงานยากต่อการตามรอยของคนร้าย ขณะเงินในตู้ยังอยู่ครบกว่า 1.3 ล้านบาท

วันนี้ (3 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.เฉลิมฉัตร นาคเสน รอง ผกก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายเป็นชายไม่ต่ำกว่า 4 คน ก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะกระชากตู้บริการเงินด่วน ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เทสโก้ โลตัส สาขาบางคล้า ก่อนรีบร้อนพากันขับรถหลบหนีไป จนทำตู้เอทีเอ็มหล่นลงมาจากรถไว้ให้ดูต่างหน้า เมื่อช่วงรุ่งเช้ามืดที่ผ่านมาของวันนี้ว่า

หลังจากธนาคารผู้ให้บริการเจ้าของตู้เงินด่วนดังกล่าวเข้ามาทำการตรวจสอบยอดจำนวนทรัพย์สิน หรือเงินสดที่ยังเหลืออยู่ภายในตู้เอทีเอ็มแล้ว ปรากฏว่า ยังคงมีจำนวนเงินคงเหลืออยู่ภายในตู้ จำนวน 1,301,000 บาท ครบถ้วนตามจำนวนยอดคงเหลือจากผู้ที่มาใช้บริการเข้ามากดออกไปจากตู้ ขณะที่สภาพตู้ได้รับความเสียหาย มีร่องรอยบุบ และถลอกจากการครูดกับพื้นภายนอก

สำหรับพฤติการณ์ของเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ลักษณะการกระทำของคนร้ายนั้นคล้ายคลึงกันกับ เหตุคนร้ายใช้รถยนต์กระบะกระชากตู้ฝากเงินด่วน เอดีเอ็ม ของธนาคารกรุงไทย สาขาสุวินทวงศ์ ในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.59 ที่ผ่านมา และเหตุคนร้ายใช้แก๊สตัดขาตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อท้องถิ่น ในเขตพื้นที่ สภ.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 4 เม.ย.59 ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าอาจเป็นคนร้ายในกลุ่มเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุดังกล่าว

สำหรับการติดตามหาร่องรอยของคนร้าย ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกระทำด้วยความยากลำบาก เนื่องจากทางห้างแห่งนี้ได้ใช้นโยบายประหยัดไฟฟ้า ที่ปิดทั้งไฟส่องสว่างภายในบริเวณห้าง และไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ภายในบริเวณพื้นที่ภายนอกตัวอาคารเลย จึงทำให้ รปภ.ที่ออกมาเห็นเหตุการณ์มองเห็นลักษณะรูปพรรณของคนร้าย และยานพาหนะได้ไม่ชัดเจน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามรายทางที่คาดว่าคนร้ายอาจจะใช้ในการหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุ