ฉะเชิงเทรา - ออกอาละวาดอีกแล้วแก๊งคนร้ายโจรกรรมกระชากตู้เงินด่วน คราวนี้เป็นตู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ชื่อดัง แต่พลาดเงินก้อนโตภายในตู้ หลังพากันรีบร้อนขับรถหลบหนีก่อนทำตู้เงินด่วนหล่นลงพื้น ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรติดมือกลับไป
วันนี้ (3 พ.ย.) พ.ต.ต.เดชฤทธิ์ ศรีคชา สารวัตรสอบสวนเวร สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้รถยนต์กระบะกระชากตู้บริการเงินด่วน (เอทีเอ็ม) ภายในบริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาบางคล้า ก่อนที่จะพยายามจะขับรถหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ได้ทำตู้บริการกดเงินด่วนตกหล่นลงจากตัวรถเอาไว้ ที่บริเวณปากทางเข้าห้าง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปสอบสวนในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ
ที่เกิดเหตุเป็นห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ขนาดย่อม (ตลาด) ตั้งอยู่ริมถนนสายบางคล้า-แปลงยาว พื้นที่ ม.1 ต.ท่าทองหลาง อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณห่างจากปากทางประตูทางเข้าไปภายในบริเวณห้าง ประมาณ 10 เมตร พบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตกหล่นอยู่บนพื้นถนนลักษณะนอนล้มตะแคงข้าง จำนวน 1 ตู้ สภาพยังไม่มีร่องรอยของการงัดแงะนำเอาเงินสดออกจากตู้ไป เจ้าหน้าที่จึงได้นำเอาแผงเหล็กมาปิดกั้นล้อมบริเวณไว้
ลึกเข้าไปด้านในประมาณ 40 เมตร บริเวณหัวมุมด้านขวาของตัวห้าง ด้านหน้ามีล็อกตั้งวางตู้บริการเงินด่วน (เอทีเอ็ม) จำนวน 2 ตู้ โดยด้านขวาสุดเป็นตู้เงินด่วนของธนาคารกสิกรไทย ยังอยู่ในสภาพปกติ ส่วนที่ฐานของตู้เงินด่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีร่องรอยของการกระชากจนแท่นวางด้านล่างหลุดกระเด็นออกมาจากจุดตั้งวาง ที่พื้นด้านหน้าตู้มีร่องรอยของการลากถู
จากการสอบสวน นายนั่น อิ่นอ้าย อายุ 45 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 25/6 ม.5 ต.ท่าทองหลาง พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทซีเคียวริตี้ ซิสเทม จำกัด ซึ่งเข้าเวรเฝ้าห้างอยู่เพียงลำพัง กล่าวว่า ตนเองได้มาเข้าเวรตั้งแต่เมื่อเวลา 18.00 น. อยู่ที่บริเวณด้านข้างทางซ้ายของตัวห้าง จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 03.50 น. ได้มีรถยนต์กระบะคันสีขาววิ่งเข้ามายังภายในบริเวณหน้าห้าง ก่อนที่จะได้ยินเสียงดังครืนบริเวณด้านหน้า ตนจึงได้เดินออกไปดู และได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นตามมา แต่ดังไม่มากนัก
จากนั้นจึงเห็นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้รีบขับรถย้อนศรออกไปทางประตูทางเข้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเวลาประมาณ 04.04 น. โดยได้มองเห็นคนร้ายเป็นชาย จำนวน 3 คน นั่งอยู่ที่ด้านบนท้ายของรถกระบะ ไม่ได้สวมอะไรปกปิดบังใบหน้า แต่มองเห็นไม่ชัดเจน เพราะสภาพพื้นที่มืดมาก ก่อนที่จะเห็นตู้เอทีเอ็มกระเด็นตกลงมาจากทางด้านหลังของบกระบะรถ เนื่องจากคนร้ายได้พยายามที่จะรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว และได้ยินเสียงของหนึ่งในคนร้ายนั้นร้องบอกกับพรรคพวกว่า มีคนเห็นให้รีบไปเลย แก๊งคนร้ายจึงไม่ได้ลงมาเอาตู้เอทีเอ็มที่ทำตก
“ตนไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆ กลุ่มของคนร้ายเพราะเนื่องจากคนร้ายมากันจำนวนหลายคน และตนก็ไม่ได้มีอาวุธอะไรในมือ มีแต่เพียงมือเปล่าๆ ขณะที่ภายในบริเวณห้างแห่งนี้ ยังไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้บริเวณภายนอกโดยรอบตัวอาคาร และประตูทางเข้าออกอีกด้วย มีแต่เพียงภายในตัวห้างเท่านั้น นอกจากนี้ ยังได้ดับไฟภายในบริเวณจนมืดสนิท ตามนโยบายประหยัดไฟฟ้า จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อย่างชัดเจนนัก”
นอกจากนี้ บริเวณตู้เอทีเอ็มก็ยังมีผู้คนเดินทางเข้าออกมากดเงินด่วนกันอยู่เป็นประจำตลอดเวลา จึงไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย หรือมากดเงิน และแต่ละกะจะมี รปภ.เพียง 1 คนเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ต.เดชฤทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมี รปภ.ของทางห้างได้ยินเสียงคล้ายของตกหล่นจึงได้วิ่งออกมาดู เห็นท้ายรถของคนร้ายที่ขับย้อนศรออกไป โดยคาดว่าคนร้ายยังไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป ซึ่งระหว่างนี้กำลังรอให้ธนาคารเข้ามาทำการตรวจสอบว่าทรัพย์สินยังอยู่ครบหรือไม่ และจะให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับแผนประทุษกรรมที่คนร้ายเคยก่อเหตุว่ามีความใกล้เคียงกันกับเหตุที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่