xs
xsm
sm
md
lg

CP ร่วมมือภาครัฐ เปิดจุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรโดยตรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


CP ร่วมมือภาครัฐ เปิดจุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากเกษตรกรโดยตรง เพิ่มความมั่นใจผู้ปลูกมีตลาดรับซื้อแน่นอน พร้อมเปิดช่องทางพิเศษ ขยายรับความชื้น 30%

เมื่อเร็วๆ นี้ พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) พร้อมด้วยสื่อมวลชนประจำจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าเยี่ยมชมโรงงานอาหารสัตว์ซีพีเอฟ จังหวัดพิษณุโลก ที่ดำเนิน “โครงการรับซื้อข้าวโพดตรงจากเกษตรกรเข้าโรงงานอาหารสัตว์” โดยบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ให้กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยโรงงานแห่งนี้เป็น 1 ใน 15 จุดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดโดยตรงจากเกษตรกรทั่วประเทศ

การลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงงานในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากขณะนี้ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ที่จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 1 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้เฉลี่ยในแต่ละเดือนประมาณ 6 แสนตัน จึงสร้างความกังวลใจให้เกษตรกรรายย่อยเรื่องตลาดและราคารับซื้อที่อาจจะตกต่ำ

ซีพีได้ออกมาสร้างความมั่นใจเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ด้วยการจัด “โครงการรับซื้อข้าวโพดตรงจากเกษตรกรเข้าโรงงานอาหารสัตว์” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้มีตลาดรองรับผลผลิตแน่นอน พร้อมรับซื้อด้วยมาตรฐานเดียวกัน 15 แห่งทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ยังขยายเปิดรับซื้อความชื้น 30% และเปิดช่องทางพิเศษให้เกษตรกรได้ลงผลผลิตอย่างรวดเร็ว และประกาศราคารับซื้อในราคากิโลกรัมไม่ต่ำกว่า 8 บาท ตอบรับนโยบายของภาครัฐที่ช่วยพยุงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต

นายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การมาเยี่ยมชมกระบวนการเปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรโดยตรงเข้าโรงงานอาหารสัตว์ ซีพี ได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรเรื่องผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในช่วงนี้มีตลาดรองรับแน่นอน และจากการตรวจสอบกระบวนการรับซื้อและการกำหนดราคารับซื้อของโรงงานอาหารสัตว์ ซีพี ยังเป็นตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้ช่วยเหลือเกษตรกรรับซื้อข้าวโพดในราคาไม่ต่ำกว่า 8 บาท

ด้านนางนภาพร กุลดี สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) จังหวัดพิษณุโลก เสริมว่า โครงการเปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโรงงานอาหารสัตว์ของซีพี ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรได้สามารถนำผลผลิตมาขายในราคาที่เหมาะสม แม้ว่าจะมีความชื้นถึง 30% โดย สกต.ยังร่วมกับซีพีส่งเสริมให้เกษตรกรปรับปรุงคุณภาพข้าวโพดให้ได้มาตรฐานความชื้น 14.5% ซึ่งเกษตรกรจะได้ราคารับซื้อตามที่ประกาศหน้าโรงงาน พร้อม สกต.จะให้เงินพิเศษกับเกษตรกรที่นำผลผลิตที่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายอีกตันละ 150 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทุกแห่งของซีพีเอฟทั่วประเทศ มีการดำเนินการได้มาตรฐาน โปร่งใส และจัดระบบเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรรายย่อยมากขึ้น โดยเกษตรกรสามารถนำข้าวโพดที่มีความชื้น 30% มาจำหน่ายให้กับโรงงานอาหารสัตว์ได้โดยตรง จากปกติเคยรับซื้อที่ความชื้น 14.5% พร้อมทั้งมีการจัดช่องทางพิเศษให้เกษตรกรรายย่อยนำผลผลิตเข้ามาขายให้โรงงานได้ก่อน ไม่เสียเวลาในการรอคิว สามารถลงผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว ทำให้แต่ละวันสามารถขายผลผลิตได้มากกว่า 1 รอบ และบริษัทฯ ยังมีนโยบายให้ในแต่ละจุดรับซื้อทั้ง 15 จุด ประกาศและยืนราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอัตราเดิมเป็นเวลา 1 สัปดาห์จากเดิมราคาจะเปลี่ยนแปลงทุกวัน

การขยายรับซื้อข้าวโพดชื้น 30% เข้าโรงงานอาหารสัตว์โดยตรง และการจัดช่องทางพิเศษให้เกษตรกรเป็นการเฉพาะ เป็นการลดภาระต้นทุนและช่วยเหลือเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงที่มีฝนตก ทำให้มีรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากยิ่งขึ้น และการยืนราคา 1 สัปดาห์ช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการเก็บเกี่ยวได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ประกาศนโยบายรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สามารถระบุแหล่งที่ปลูกที่ถูกต้อง มีเอกสารยืนยันพื้นที่ปลูกที่ถูกกฎหมาย ตั้งแต่ต้นปี 2559 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืนของซีพีเอฟ ดังนั้น เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จะจำหน่ายผลผลิตให้โรงงานอาหารสัตว์ของซีพีเอฟต้องปฏิบัติตามนโยบายการตรวจสอบย้อนกลับของแหล่งที่มาของข้าวโพด เพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายมีการเพาะปลูกในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง ไม่ได้ปลูกข้าวโพดจากการบุกรุกพื้นที่ป่าอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีความรู้ในการเพาะปลูกที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การมีรายได้ที่ดีอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ารับการอบรมกว่า 4,311 รายครอบคลุมพื้นที่ปลูก 118,069 ไร่ใน 20 จังหวัด และบริษัทยังประยุกต์ใช้กับโครงการเกษตรสมัยใหม่ภายใต้นโยบายประชารัฐใน 2 พื้นที่ได้แก่ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และ ต.ซับพุทรา อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์



กำลังโหลดความคิดเห็น