พิษณุโลก - เครือซีพี เดินหน้าเปิดจุดรับซื้อข้าวโพดความชื้นต่ำกิโลฯ ละ 7-8 บาท เปิดฟาสต์เลนขนขายตรงเข้าโรงงานอาหารสัตว์ 15 จุดทั่วประเทศ ไม่ต้องรอคิว
นายไพศาล เครือวงศ์วานิช รองกรรมการผู้จัดการบริหารบริษัทกรุงเทพโปรดิ๊วส พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก สกต.พิษณุโลก และตัวแทนเกษตรกร ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ศูนย์พัฒนาคน เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก วานนี้ (25 ต.ค.) ถึงโครงการรับซื้อข้าวโพดตรงจากเกษตรกรเข้าโรงงานอาหารสัตว์ ซีพีเอฟ พร้อมนำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมจุดรับซื้อข้าวโพด
นายไพศาล กล่าวว่า บริษัทจัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) จึงได้ดำเนินโครงการนี้ ระหว่างเดือน ก.ย.59 จนถึงเดือน มี.ค.60 เพื่อเป็นทางเลือก และเป็นหลักประกันว่า เกษตรกรจะมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน ได้ราคารับซื้อที่เหมาะสม ตอบรับนโยบายของภาครัฐที่ช่วยพยุงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โดยบริษัทจะเปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ 15 จุด เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิต เกษตรกรสามารถนำข้าวโพดที่มีความชื้น 30% มาจำหน่ายให้แก่โรงงานอาหารสัตว์โดยตรง จากปกติที่เคยรับซื้อที่มีความชื้น 14.5% และมีการจัดฟาสต์แทร็กเลนให้เกษตรกรรายย่อยขายผลผลิตได้ก่อน ไม่เสียเวลารอคิว
“ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะรับซื้อในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท ส่วนโรงงานอาหารสัตว์ในเขตอื่นๆ ก็จะมีการกำหนดราคารับซื้อลดหลั่นกันตามต้นทุนค่าขนส่งของแต่ละพื้นที่”
แต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จะจำหน่ายผลผลิตให้โรงงานอาหารสัตว์ของซีพีเอฟ ต้องปฏิบัติตามนโยบายการตรวจสอบย้อนกลับของแหล่งที่มาของข้าวโพด เพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายมีการเพาะปลูกพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง ไม่ได้ปลูกข้าวโพดจากการบุกรุกพื้นที่ป่า
ส่วนกรณีสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ขอความร่วมมือไปยังสมาชิกให้ชะลอการนำเข้าข้าวสาลีไปถึงต้นปีหน้าเช่นเดียวกัน และให้ซื้อผลผลิตข้าวโพดในประเทศก่อน เพื่อพยุงราคาในช่วงที่ผลผลิตข้าวโพดจากทั่วประเทศออกสู่ตลาด จนราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์เหลือเพียง 3.00-4.00 บาท (ความชื้น 30%) ต่อกิโลกรัม จากราคา 8 บาท/กิโลกรัม ในปีที่ผ่านมา
นายไพศาล กล่าวว่า สมาชิกสมาคมฯ ทุกรายช่วยกันพยุงราคาอยู่ ณ วันนี้ ราคาข้าวโพดความชื้น 14.5% ไทยอยู่ที่ 8 บาท สูงกว่า ราคาตลาดโลก 1 บาทต่อกิโลกรัม เทียบง่ายๆ คือ ตลาดกรุงเทพฯ ในเกรดส่งออกอยู่ที่ 7 บาท ถือเป็นราคาที่เกษตรกรได้รับการคุ้มครองจากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์แล้ว
แต่ประเทศไทยผลิตอาหารสัตว์ได้ 4.7 ล้านตัน ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีความต้องการใช้ข้าวโพด 8.3 ล้านตัน ยังขาดข้าวโพด 3 ล้านกว่าตัน ดังนั้น จึงต้องนำเข้าเพื่อชดเชยส่วนที่ขาด เพื่อไม่ได้กระทบความต้องการในประเทศส่วนราคาที่เกษตรกรขายได้จากไร่ คือ ราคา 3.00-4.00 บาทนั้น เป็นราคาหน้าไร่ ซึ่งมีความชื้นสูง 30% หากคำนวณ ณ ราคา 3-4 บาท เมื่อทำเป็นข้าวโพดแห้งความชื้น 14.5เปอร์เซ็นต์ ควรอยู่ที่ระดับราคา 7 บาท
“ปี 58 ที่ผ่านมา ราคาข้าวโพดจากไร่ ความชื้น 30% เกษตรกรขายได้สูงถึง 8 บาทนั้น เนื่องจากราคาข้าวโพดในตลาดโลกสูงกว่าปัจจุบันกว่า 30%”
นายไพศาล กล่าวอีกว่า เดิมเกษตรกรก็ปลูกข้าวโพดอยู่แล้ว แต่ซีพีต้องการต่อยอดเรื่องการตลาด พัฒนาเกษตรกรให้รวมกลุ่มขายผลผลิตหรือซื้อปุ๋ย ที่ผ่านมา ผลผลิตข้าวโพดออกสู่ตลาด ราคาค่อนข้างต่ำ เกษตรกรมักเรียกร้องเป็นประจำทุกปี แตกต่างกับเกษตรกรในต่างประเทศที่มีที่ดินผืนใหญ่ แต่เกษตรกรประเทศไทยมักมีแปลงที่ดินเล็กๆ ฉะนั้นเกษตรกรจึงต้องรวมกลุ่มกันทำ
ทั้งนี้ บริษัทบริษัทกรุงเทพโปรดิ๊วส์ ดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีความรู้การเพาะปลูกที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การมีรายได้ที่ดีอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้ารับการอบรมกว่า 4,311 ราย ครอบคลุมพื้นที่ปลูก 118,069 ไร่ ใน 20 จังหวัด และบริษัทฯ ยังประยุกต์ใช้กับโครงการเกษตรสมัยใหม่ภายใต้นโยบายประชารัฐใน 2 พื้นที่ ได้แก่ ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และ ต.ซับพุทรา อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
