สุรินทร์ - “ผู้ใหญ่บ้านต้นแบบ!” เมืองช้าง น้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “ในหลวง ร.๙” มาดำเนินชีวิตและทำเกษตรไร่นาสวนผสม ประสบผลสำเร็จเก็บผลผลิตออกจำหน่ายสร้างรายได้ทุกวัน พลิกชีวิตฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นและครอบครอบครัวมีความสุข กลายเป็นต้นแบบแหล่งเรียนรู้ชุมชนให้ลูกบ้านนำไปปฏิบัติ เผยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ มุ่งมั่นดำเนินชีวิตตามรอยเบื้องพระยุคลบาทตลอดไป
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านจังเอิญโค หมู่ที่ 2 ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ในหมู่บ้านแห่งนี้ มีผู้นำหมู่บ้านเป็นเกษตรกร ผู้น้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสมจนประสบผลสำเร็จสามารถพลิกชีวิตฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้น ครอบครอบครัวมีความสุข และกลายเป็นต้นแบบแหล่งเรียนรู้ให้กับลูกบ้านในชุมชนได้นำไปปฏิบัติ
นายคำทรัพย์ ควรหาญ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านจังเอิญโค และ นางพรพิมล ควรหาญ อายุ 49 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 12/2 บ้านจังเอิญโค ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ครอบครัวผู้นำชุมชนผู้มุ่งมั่นทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สัมผัสไร่นาสวนผสม ที่มีการจัดการแบ่งสรรจัดส่วน การปลูกพืชผัก ไม้ผล ขุดบ่อน้ำเลี้ยงปลา และทำแปลงนาข้าวไว้อย่างลงตัว ทำให้ปัจจุบันมีผลผลิตหมุนเวียนให้เก็บเกี่ยวออกจำหน่ายสร้างรายได้ทุกวัน รวมทั้งใช้เลี้ยงครอบครัวอย่างมีความสุข และสามารถแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้านใกล้เคียงอีกด้วย อีกทั้งกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรคนอื่นๆ ได้มาศึกษาดูงานและนำไปปฏิบัติจนประสบผลสำเร็จแล้วหลายต่อหลายราย
นายคำทรัพย์เล่าว่า เดิมทีตนและภรรยาทำนาและปลูกมะม่วงไว้ในสวนเพียงอย่างเดียว ต่อมาขาดน้ำต้นมะม่วงตายหมดเลย จากนั้นจึงได้รับทราบถึงแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตนมีความสนใจเป็นอย่างมากและได้น้อมนำมาปรับใช้ในพื้นที่สวนและนาซึ่งมีที่ดินอยู่รวม 10 ไร่ โดยแบ่งที่ดินทำสวนไม้ผล และปลูกพืชผัก หมุนเวียนเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งกล้วยน้ำว้า มะม่วง ข่า ตะไคร้ ชะอม มะนาว ส้มโอ พริก และผักกินได้ปลูกเป็นรั้วบ้าน ร่วมทั้งต้นหมากด้วย ซึ่งได้ผลผลผลิตดีดูแลง่าย ตนและภรรยาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมาใช้กินในครอบครัว และนำออกขายได้ทุกวัน บางส่วนก็แบ่งปั้นให้เพื่อนบ้าน
นอกจากนั้น ได้แบ่งที่ดินขุดเป็นสระน้ำเลี้ยงปลา จำนวน 1 ไร่ โดยเลี้ยงปลาโตเร็ว เป็นที่นิยมบริโภคในท้องถิ่น และ แบ่งที่ดินที่เหลืออีก 6 ไร่เป็นนาข้าว เน้นทำเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ โดยข้าวส่วนหนึ่งเก็บไว้กิน อีกส่วนเก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ในการทำนาปีต่อไป และปัจจุบันไร่นาสวนของตนได้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนทั่วไปด้วย
ทั้งหมดข้างต้นที่ตนทำมานั้นด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นอย่างมากที่ได้ทรงงานหนักมาตลอดเพื่อปวงชนชาวไทยและทรงนำแนวทางที่ดีพระราชทานให้เกษตรกรได้นำมาใช้ และเป็นแนวทางที่ทำได้จริงและได้ผล ปัจจุบันทำให้ครอบครัวตนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีเงินส่งลูกเรียนหนังสือ และที่สำคัญไม่ต้องอพยพออกไปทำงานต่างถิ่น เมื่อได้น้อมนำแนวทางของพระองค์ท่านมาปฏิบัติ ทำให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันและมีความสุข ตนและครอบครัวจะดำเนินชีวิตตามรอยเบื้องพระยุคลบาทตลอดไป