เรือท่องเที่ยวพัทยาดิ้นเอาตัวรอด หลัง คสช.เข้มทวงคืนที่สาธารณะ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวพัทยาดิ้นเพื่อความอยู่รอด ตระเวนเช่าที่ดินเอกชนจัดหาจุดจอดใหม่ หลังมีนโยบายในการทวงคืนพื้นที่สาธารณะ

หลังจากที่กองบัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 14 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้ามาดำเนินการในการจัดระเบียบพื้นที่สาธารณะบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย และได้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวเคลื่อนย้ายเรือทั้งหมดออกจากพื้นที่สาธารณะบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2559 นั้น

วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณลานสาธารณะท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการเกือบ 100% ได้มีการเคลื่อนย้ายเรือนำเที่ยวออกจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามคำสั่ง คสช. ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะไปเช่าพื้นที่ของภาคเอกชนในการเคลื่อนย้ายเรือไปจอด

แต่ก็มีการกระจัดกระจายไปตามสภาพ ไม่ได้มีการรวมพื้นที่ลานจอดที่หนาแน่นเช่นเดิม เนื่องจากปัจจุบันมีพื้นที่ว่างเปล่าซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับท่าขึ้นลงเรือนำเที่ยวแห่งใหม่ซึ่งอยู่บริเวณซอยจอมเทียน 11 และ 14 ไม่มากนัก อีกทั้งยังมีที่ดินขนาดเล็ก และราคาค่าเช่าสูงกว่าจะรับได้

ด้าน นายสนิท บุญมาฉาย ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในส่วนเรือที่ตนเองดูแลนั้นจะมีอยู่ประมาณ 120 ลำ ซึ่งเบื้องต้น ได้ไปเช่าพื้นที่เอกชนภายในชัยพฤกษ์ซอย 4 ในเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ โดยเสียค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท ซึ่งถือว่าสามารถนำเรือมาจอดได้อย่างเพียงพอ แม้ในช่วงแรกอาจจะยังมีปัญหาในเรื่องของการปรับสภาพพื้นที่อยู่บ้าง และพื้นที่แห่งนี้ก็ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากท่าขึ้นลงเรือมากนัก

ส่วนในอนาคตก็คงจะมีการหารือกับผู้ประกอบการอื่นๆ อีกครั้งว่า จะทำการหาพื้นที่จอดเรือใหม่ที่เหมาะสม และสามารถรองรับเรือได้เป็นจำนวนมากกว่านี้ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้มีการพูดคุยกับเอกชนไว้รายหนึ่งแล้วในเรื่องของการขอเช่าพื้นที่จอดเรือที่อยู่บริเวณถนนจอมเทียนสาย 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ คาดว่าในเร็ววันนี้คงจะได้คำตอบ