xs
xsm
sm
md
lg

หน.อุทยานฯ นำกำลังจัดระเบียบร้านค้าหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพ รื้อถอนทัศนอุจาดกว่า 20 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พร้อมด้วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจัดระเบียบร้านค้าแผงลอยหน้าทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และนักท่องเที่ยวว่า มีการต่อเติมรุกล้ำพื้นที่ที่กำหนด กีดขวางทางสัญจร และก่อทัศนอุจาด เบื้องต้น พบผิดระเบียบ และต้องดำเนินการรื้อถอนทันทีกว่า 20 ร้าน พร้อมสั่งกำชับเจ้าของร้านปฏิบัติให้ถูกต้อง หากตรวจพบทำผิดซ้ำเตรียมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่บริเวณถนน หน้าบันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำเจ้าหน้าที่อุทยาน พร้อมด้วยกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ และจัดระเบียบร้านค้าแผงลอยบริเวณดังกล่าว หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และนักท่องเที่ยวว่า มีร้านค้าทำการต่อเติม และขยายพื้นที่รุกล้ำขอบเขตตามที่มีการกำหนดข้อบังคับไว้ กีดขวางทางเท้า และมีการนำสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ มาเลี้ยงไว้ด้วย ซึ่งก่อให้เกิดทัศนอุจาด และกลิ่นไม่พึงประสงค์

เบื้องต้น กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย ได้มีการแบ่งออกเป็น 4 ชุด เข้าทำการตรวจสอบ และพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจต่อเจ้าของร้านค้าต่างๆ โดยในส่วนที่พบว่า มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามข้อบังคับที่มีการกำหนดไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรื้อถอนส่วนที่ผิดระเบียบออก และชี้แจงข้อปฏิบัติที่ถูกต้องให้ทางเจ้าของร้านค้าทราบ และเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการเข้าตรวจสอบเป็นระยะๆ ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจสอบ และดำเนินการจัดระเบียบในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีเหตุความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า การดำเนินการจัดระเบียบในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีประชาชน และนักท่องเที่ยวร้องเรียน ว่า ร้านค้าบริเวณหน้าวัดพระธาตุวัดดอยสุเทพราชวรวิหาร ที่ถือเป็นสถานที่สำคัญ และสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยพบว่ามีการต่อเติม มีการรุกล้ำทางเท้า ก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป ประกอบกับในช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จึงได้ดำเนินการสนธิกำลังเพื่อดำเนินการจัดระเบียบร้านค้าให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ และเข้าดำเนินการจัดระเบียบในครั้งนี้พบว่า มีร้านค้าที่ฝ่าฝืนและทำผิดระเบียบมากกว่า 20 ร้าน จากร้านค้าทั้งหมดที่มีอยู่จำนวน 80 กว่าร้าน นอกจากนี้ ยังมีการเลี้ยงสัตว์ เช่น เป็ด ไก่ โดยมีการทำเล้าที่ก่อให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่การรื้อถอนจุดที่ได้มีการต่อเติม และจุดที่นอกเหนือจากที่ได้กำหนด ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในวันนี้ และหลังจากที่ได้มีการจัดระเบียบในวันนี้แล้วนั้นก็จะมีการเข้าทำการตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้ง เนื่องจากในวันนี้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้มีการรื้อถอนยังอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งจะต้องมีการทำบันทึก และให้เวลาแก่ทางผู้ประกอบการร้านค้าได้ขนวัสดุ อุปกรณ์เหล่านี้ออกไปภายใน 3 วัน แต่หากยังไม่มีการดำเนินการให้เรียบร้อยทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเข้าดำเนินคดีต่อผู้ที่ฝ่าฝืนอีกครั้ง

สำหรับร้านค้าดังกล่าวนั้น นายกริชสยาม ระบุว่า เดิมเป็นร้านที่เคยตั้งขายสินค้าอยู่ที่บริเวณด้านหน้าบันไดนาค ที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการจัดระเบียบ เนื่องจากกีดขวางประชาชน และนักท่องเที่ยวในการเดินขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งต่อมาได้ย้ายมาอยู่บริเวณที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบในครั้งนี้ที่พบว่า เจ้าของร้านค้าหลายรายมีการลักลอบต่อเติมทั้งด้านหน้า และด้านหลังของร้าน ทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงต้องมีการดำเนินการเพื่อให้เกิดความถูกต้อง และเป็นระเบียบมากที่สุด

ขณะเดียวกัน นายกริชสยาม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.59 เป็นต้นไป ทางอุทยานฯ ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการดูแล และต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นมาท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก โดยได้มีการกำชับในเรื่องของการให้บริการ รวมทั้งกำชับในเรื่องของความเป็นระเบียบ ความสวยงามของพื้นที่ และการบริการของเจ้าหน้าที่ โดยปีที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีนักท่องเที่ยวประมาณ 8 แสนคน จัดเก็บรายได้ได้ทั้งสิ้นประมาณ 15 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยปีละประมาณ 20% ซึ่งในปีนี้คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น