ประจวบคีรีขันธ์ - ประชาชนหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน กลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ยังคงเดินทางมาร่วมจุดเทียนถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่หน้าวังไกลกังวล กันอย่างเนืองแน่นเป็นวันที่ 6 “สำนักดาบพุทไธสวรรย์” ซึ่งเคยได้รับพระราชทานธงไชย และตราเสื้อประจำสำนักดาบ ได้มีแสดงการรำหมู่อาวุธโบราณสมัยอยุธยาที่หน้าประตูเสด็จฯ และการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
บรรยากาศบริเวณถนนเพชรเกษม ด้านหน้าวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ยังคงมีประชาชน หน่วยงานภาครัฐ ตำรวจ ทหาร ภาคเอกชน ตลอดจนกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ แต่งกายด้วยชุดดำ ขาว และชุดข้าราชการ เดินทางมาร่วมจุดเทียนถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กันอย่างเนืองแน่น เป็นวันที่ 6 แห่งการสวรรคต
โดย นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงานลูกจ้างในสังกัด และประชาชนยังคงจัดกิจกรรมเดินด้วยใจไปถวายความอาลัยหน้าบ้านพ่อเป็นวันที่ 2 ซึ่งก็มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยมีกลุ่มผู้ประกอบการ และจิตอาสาได้นำอาหาร ขนมของว่าง เครื่องดื่ม และไอศกรีมมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาจุดเทียนถวายความอาลัยด้วย
จากนั้นเมื่อถึงเวลาประมาณ 19.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหิน ได้ทำการปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนได้รวมตัวกันเต็มถนนเพชรเกษมด้านหน้าพระราชวังไกลกังวลหัวหิน ร่วมกันจุดเทียน ยืนสงบนิ่ง และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา เพลงต้นไม้ของพ่อ และเพลงพ่อของแผ่นดิน ก่อนจะปักเทียนลงบนสถานที่จัดเตรียมไว้
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีจุดเทียนถวายความอาลัยแล้ว มีการแสดงรำดาบโบราณ จากสำนักดาบพุทไธสวรรย์ แห่งจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมถวายความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน เนื่องจากสำนักดาบแห่งนี้เคยได้รับพระราชทานธงไชย และตราเสื้อประจำสำนักดาบพุทไธสวรรย์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2500 หรือเกือบ 60 ปีแล้ว ซึ่งครั้งนั้นพระองค์มีรับสั่งแก่ทางสำนักดาบพุทไธสวรรย์ ว่า “ขอให้รวมตัวกันให้มากจนเป็นกองทัพ จะเป็นกำลังใจให้”
โดยในครั้งนี้ สำนักดาบได้จัดชุดการแสดงมา เริ่มต้นด้วย เพลงสายโลหิต ซึ่งสื่อความหมายถึงการเสียสละเพี่อชาติเพื่อแผ่นดิน จากนั้นจึงเป็นการรำดาบประกอบเพลงเพรีปราบดิน ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งในละครเทิดพระเกียรติที่สำนักดาบแห่งนี้ได้มีโอกาสร่วมแสดงหน้าพระพักตร์ และชุดสุดท้ายเป็นการรำหมู่อาวุธไทยโบราณ ชุดวีระมหาเทพ ซึ่งเป็นการกระบวนท่ารำดาบสมับอยุธยา
นอกจากนั้น ยังมีวงดนตรีแจ๊ซ มาบรรเลงบทเพลงเพลงพระราชนิพนธ์ เช่น เพลงค่ำแล้ว แสงเทียน เพลงใกล้รุ่ง เพลงชะตาชีวิต ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาร่วมชมเป็นจำนวนมาก โดยการสแดงทั้ง 2 ชุดในวันนี้ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงออกถึงความอาลัย ความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน