นครสวรรค์/อุทัยธานี - นักท่องเที่ยวตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศพากันเดินทางขึ้นเขาสะแกกรัง สักการะ “โพธิ์ของพ่อ” พร้อมกราบไหว้องค์พระปฐมบรมมหาชนก ขณะที่พระ-ศรัทธา “วัดถือน้ำ ปากน้ำโพ” ร่วมดูแลรักษา “พิกุลทรงปลูก” เต็มที่ หวังให้อยู่ยืนยาวนานเท่านาน
วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักท่องเที่ยว ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่ล้วนแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าสีขาว-ดำ เดินทางไปท่องเที่ยวบนยอดเขาสะแกกรัง ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี ขณะนี้นอกจากจะพากันไปกราบสักการะองค์พระปฐมบรมมหาชนก พระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ต้นราชวงศ์จักรี และสักการะปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง ภายในมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังแล้ว ปรากฏว่าผู้คนยังได้พากันกราบไหว้สักการะ “ต้นโพธิ์” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงปลูกไว้เมื่อครั้งพระองค์เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจและเยี่ยมเยียนราษฎรในจังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2522 หรือเมื่อ 37 ปีที่ผ่านมา
ต้นโพธิ์ ที่พระองค์ท่านทรงปลูกขณะนี้ได้แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาอย่างสวยงามและเป็นสง่า เปรียบเสมือนเป็นร่มโพธิ์ทองคุ้มครองปกปักรักษาพสกนิกรชาวอุทัยธานี และปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ
ขณะที่พระลูกวัด และชาวบ้านบริเวณรอบวัดศรีสวรรค์สังฆาราม หรือวัดถือน้ำ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมืองนครสวรรค์ ก็ได้ช่วยกันทำความสะอาด ตัดหญ้า และกวาดใบไม้รอบต้นพิกุลทอง อายุ 40 ปี บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ ซึ่งถือเป็นต้นไม้มงคลประจำวัด เนื่องจากเป็นต้นพิกุลที่ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” ทรงปลูกไว้ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินตัดลูกนิมิตพระอุโบสถ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2519
โดยในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ท่ามกลางประชาชนชาว จ.นครสวรรค์ เฝ้าฯ รับเสด็จเป็นจำนวนมาก
พระครูนิสิต สุคนธศีล เจ้าอาวาสวัดศรีสวรรค์สังฆาราม รูปปัจจุบัน บอกว่า เมื่อปี พ.ศ. 2519 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ มาทรงตัดลูกนิมิตที่วัด ขณะนั้นมีหลวงพ่อสมควร วิชชาวิสาโล เป็นเจ้าอาวาส พระองค์ท่านทรงปลูกต้นพิกุล ที่ทางกรมป่าไม้จัดเตรียมไว้ ซึ่งสื่อถึงต้นไม้มงคลจะทำให้มีอายุยืน และมีดอกไม้ส่งกลิ่นหอม ออกเมล็ด สามารถนำไปเพราะพันธุ์ต่อได้
“แต่ต้นไม้พิกุลที่พระองค์ท่านทรงปลูกไว้เป็นที่ระลึกต้นนี้ กลับแตกต่างจากต้นพิกุลทั่วไป ทั้งรูปทรง ที่ขยายกิ่งก้าน เหมือนดั่งกำลังแผ่ขยายพระบารมีแห่งความร่มเย็นเป็นสุข และไม่ออกเมล็ด มีแต่ออกดอกพิกุล ส่งกลิ่นหอมเท่านั้น”
พระครูนิสิต สุคนธศีล ระบุอีกว่า แต่แข็งแรงมาก เคยถูกน้ำท่วมมาแล้วถึง 3 ครั้งแต่ก็ยังไม่เป็นอะไร พระที่วัดและลูกศิษย์สลับผลัดเปลี่ยนกันตัดแต่งกิ่ง รดน้ำ รวมถึงทำความสะอาด ตัดหญ้า กวาดใบไม้โดยรอบตลอด ทางป่าไม้ จ.นครสวรรค์ ก็มาช่วยกำจัดหนอนเจาะลำต้นด้วย และที่ผ่านมาก็มีประชาชนมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่เรื่อยๆ
ส่วนการเพาะขยายพันธุ์ต้นพิกุลของ “พ่อหลวง” ทางวัดอนุญาตให้เพียงหน่วยงานราชการบางส่วน มาตอนกิ่งต้นพิกุล นำไปปลูกขยายพันธุ์ในโอกาสงานมงคลต่างๆ เท่านั้น ไม่อนุญาตให้ประชาชนโดยทั่วไปมาดำเนินการใดๆ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับต้นไม้ประวัติศาสตร์ต้นนี้ ซึ่งจะมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เพื่อให้ต้นไม้ของพ่อหลวงมีอายุยืนยาวตราบนานเท่านาน