ภาคอีสาน - พสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมกันตักบาตรเทโวโรหณะเนื่องในวันออกพรรษา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต่างใส่ชุดขาว-ดำเพื่อไว้อาลัยพ่อหลวงของชาวไทย
ตั้งแต่เช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ที่ถนนสายวัฒนธรรม บริเวณท่าน้ำวัดหลวง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ซึ่งแต่งกายไว้ทุกข์ ตักบาตรเทโวโรหณะแด่พระสงฆ์สามเณรจำนวน 90 รูป เนื่องในวันออกพรรษา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่งดวงพระวิญญาณสู่สวรรคาลัย
ส่วนงานรื่นเริงและการจัดแข่งขันเรือยาวประเพณีระหว่างวันที่ 22-23 ต.ค. สำนักงานเทศบาลนครอุบลราชธานีได้ประกาศงดการจัดงาน เพื่อแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ชาวอุดรฯ สวมเสื้อขาว-ดำไว้อาลัย
ขณะเดียวกัน ที่พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน พสกนิกรจำนวนมากร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยพุทธศาสนิกชนและพสกนิกรส่วนใหญ่ต่างร่วมใจสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว ดำ เพื่อแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ส่วนที่บริเวณห้องโถง ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี พสกนิกรชาวทุกหมู่เหล่าได้เดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยผู้เข้าร่วมต่างสวมใส่ชุดสีดำขาวไว้ทุกข์ และร่วมลงนามแสดงความอาลัยจำนวนมาก
ชาวนครพนมแน่นลานพนมนาคา
ที่ลานพนมนาคา หน้าองค์พญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งโขง จ.นครพนม พสกนิกรทุกหมู่เหล่า นำโดย ดร.ไพฑูรย์ รักประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.อรรถ สิงหัษฐิต ผบ.มทบ.210 ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะเพื่อสืบทอดประเพณีอันดีงาม และเพื่อถวายเป็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยบรรยากาศในงานประชาชนต่างแต่งกายไว้ทุกข์มาร่วมทำบุญตักบาตรกว่า 1,000 คน
ประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ มีความเป็นมาในสมัยพุทธกาล เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรมศาสดาได้เสด็จขึ้นไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดายังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม เมื่อพระมารดาบรรลุเป็นพระอรหันต์ภูมิแล้วจึงเสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงมาสู่โลกมนุษย์ ซึ่งพระอินทร์ได้ให้พระวิศณุกรรมเนรมิตบันไดแก้วทอดให้พระพุทธองค์เสด็จโดยมีบันไดทองเบื้องซ้ายและบันไดเงินเบื้องขวาสำหรับหมู่ เทพยดา พระอินทร์และพระพรหม ทอดลงมาสู่มนุษยภูมิที่มีสังกัสนคร
วันที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์นั้น เรียกว่าวันเทโวโรหณะ ซึ่งจะมีพระอรหันต์พร้อมด้วยสาธุชนมารอรับเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อการใส่บาตรอย่างมากมายขึ้นที่บริเวณนี้
