นครพนม - หลานชายย่าตุ้ม ชาว อ.ธาตุพนม ผู้ถวายดอกบัวแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เมื่อ 61 ปีก่อน เปิดใจภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยใต้ร่มพระบารมี ระบุเป็นภาพประทับใจของคนไทยทั้งประเทศ สื่อถึงความรัก ความเมตตา ของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย ยันจะขอตอบแทนพระองค์ในฐานะลูกของพ่อ คือทำความดี และสั่งสอนให้ลูกหลานเป็นคนดีของสังคม วอนชาวไทยร่วมทำความดีตอบแทนพ่อหลวง
วันนี้ (15 ต.ค. 59) ภายหลังสำนักพระราชวังแถลงการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เสด็จสวรรคต สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่ประชาชนทั้งประเทศ ขณะเดียวกัน ประชาชนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในพระราชกรณียกิจดูแลพสกนิกรชาวไทย ครองราชย์มายาวนานถึง 70 ปี โดยเฉพาะพสกนิกรชาว จ.นครพนม มีความภาคภูมิใจเนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เยี่ยมเยือนพสกนิกรภาคอีสาน รวมถึงชาวจังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2498 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลาผ่านมากกว่า 61 ปี
ทั้งสองพระองค์ได้ประทับแรมที่พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังเก่า และทอดพระเนตรงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟเป็นครั้งแรก รวมถึงได้เสด็จไปนมัสการองค์พระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เป็นที่มาของภาพประวัติศาสตร์ บุคคลในภาพแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยายวัย 102 ปี นำดอกบัว 3 ดอก ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณริมถนน สามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ที่ยังสร้างความประทบใจให้แก่พสกนิกรชาวไทย ไม่เคยโรยรา จากอดีตถึงปัจจุบัน
มาถึงวันนี้ แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ จะเสด็จสวรรคต แต่พสกนิกรชาว จ.นครพนม ยังมีพระองค์อยู่ในดวงใจตลอดไป เช่นเดียวกับคุณตาบรม จันทนิตย์ อายุ 76 ปี พสกนิกรชาวบ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลานชายแท้ๆ ของแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ คุณยายวัย 102 ปี บุคคลในภาพที่นำดอกบัว 3 ดอก ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้ออกมากล่าวเทิดทูนอย่างซาบซึ้งและภาคภูมิใจ ว่าตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมี และเป็นคนไทย โดยช่วงหนึ่งของชีวิตตนได้จดจำภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 ช่วงที่ตนอายุประมาณ 16 ปี ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปยังวัดพระธาตุพนม เส้นทางผ่านหมู่บ้านจึงได้ไปเฝ้าฯ รอรับเสด็จ แม้ไม่มีโอกาสเห็นทั้งสองพระองค์ แต่ยังรู้สึกตื่นเต้นภูมิใจและได้รู้ว่า คุณย่า คือ ย่าตุ้ม จันทนิตย์ วัย 102 ปี ถึงแก่ชราแต่ยังมีความจงรักภักดีนำดอกบัวไปรอถวายริมถนน
จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่า ในช่วงเสด็จกลับ เวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่งเพื่อเดินเยี่ยมพสกนิกรที่มารอรับเสด็จตั้งเช้าถึงบ่าย และพระองค์เดินมารับการถวายดอกบัวเหี่ยวจำนวน 3 ดอกจากคุณย่าตุ้ม บริเวณริมถนนสามแยกชยางกูร-เรณูนคร ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยมีนายอาณัติ บุญนาค ช่างภาพส่วนพระองค์บันทึกภาพไว้ กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ “ดอกไม้แห่งหัวใจ ผู้เฒ่าแห่งอีสาน” กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ติดตาคนไทยทั้งชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ย่าตุ้มจะถึงแก่กรรมไปตั้งแต่ปี 2501
คุณตาบรม หลานชายย่าตุ้มเปิดเผยว่า ภายหลังสำนักพระราชวังได้ส่งภาพคุณย่าตุ้มทูลเกล้าฯ ถวายดอกบัวแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ มาให้ สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวรวมถึง ชาว จ.นครพนม เป็นอย่างมาก ตนในฐานะหลานชายย่าตุ้มได้ติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์มาตลอดจากสื่อโทรทัศน์ ยิ่งมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ตนคิดว่าพระองค์ไม่ใช่แค่พระราชา แต่พระองค์ทรงเป็นพ่อของลูกทุกคน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ พระองค์ยังห่วงพสกนิกรชาวไทยเสมือนลูกของพระองค์
จากนี้ไปสิ่งเดียวที่ตนจะตอบแทนพระองค์ได้ในฐานะลูกของพ่อ คือ การทำความดี และสั่งสอนให้ลูกหลานเป็นคนดีของสังคม และวอนชาวไทยร่วมทำความดีตอบแทนพ่อหลวง รวมถึงจดจำภาพแห่งความทรงจำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ รับถวายดอกบัวจากคุณย่าตุ้ม ที่สื่อถึงความรัก ความเมตตา ของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยไปตลอดชีวิต