จันทบุรี - ฝนตกหนัก กระแสน้ำไหลแรงลงคลองบ้านแก้ว เข้ากัดเซาะแนวตลิ่ง และเกิดดินทรุด ส่งผลทำให้กำแพงร้านขายของชำที่ติดกับคลองพังถล่มลงมา โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองท่าช้าง เข้าช่วยเหลือโดยการนำแท่นปูนมาปิดกั้นเป็นแนวเพื่อป้องกันไม่ให้ดินทรุดตัวเพิ่ม
วันนี้ (7 ต.ค.) เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้รับแจ้งจาก นางลัดดา อมรชัยมงคล อายุ 60 ปี แม่ค้าขายของชำ อยู่บ้านเลขที่ 30/2 หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ว่า เกิดกำแพงบ้านพังถล่มลงมา หลังจากได้เกิดฝนตกหนักทำให้กระแสน้ำที่ไหลลงคลองบ้านแก้ว ได้เข้ากัดเซาะแนวตลิ่ง และทำให้เกิดดินทรุด ขอให้เจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาช่วยเหลือด้วย
หลังรับได้แจ้งเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้รุดไปที่เกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า เป็นบ้านพักปูนชั้นเดียวที่เปิดเป็นร้านขายชำ และอยู่ติดกับคลองบ้านแก้ว พบ นางลัดดา อมรชัยมงคล ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ ก่อนที่ นางลัดดา จะพาเจ้าหน้าที่ไปดูจุดที่กำแพงหลังบ้านที่พังถล่มลงมาทั้งแถบ ตรวจสอบคลองบ้านแก้ว มีกระแสน้ำไหลแรง และมีสีขุ่นแดง พบแนวตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะเป็นวงกว้าง และเกิดดินทรุดตัว
ในเบื้องต้น นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้เข้าช่วยเหลือโดยการนำรถแบ็กโฮนำแท่งปูนทำเป็นแนวกั้นเพื่อป้องกันดินทรุดตัวเพิ่ม และป้องกันกระแสน้ำกัดเซาะแนวตลิ่งเพิ่มเช่นกัน ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง และมีกระแสน้ำไหลลงคลองบ้านแก้ว เป็นจำนวนมาก ประกอบบ้านของ นางลัดดา ได้อยู่ติดกับคลองบ้านแก้ว ทำให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นดังกล่าว ทั้งนี้ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นางลัดดา อมรชัยมงคล เจ้าของร้านขายของชำกล่าวว่า ในพื้นที่ตัวเมืองจันทบุรี ได้เกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง ทำให้กระแสน้ำที่ไหลลงคลองบ้านแก้ว ได้เข้ากัดเซาะแนวตลิ่ง และเกิดดินทรุดก่อนที่กำแพงปูนหลังบ้านของตนเองจะพังถล่มลงมา ทั้งนี้ โชคดีที่ไม่มีข้าวของ และคนในบ้านได้รับอันตรายแต่อย่างใด