ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าของอาคารร้านค้าริมชายหาดหัวหิน ตั้งแต่สะพานปลา ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่หน่วยงานภาครัฐแจ้งว่าปลูกสร้างอาคารรุกล้ำพื้นที่สาธารณะต้องรื้อถอนอาคารทั้ง 40 อาคาร เริ่มทยอยเดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านร้องขอความเป็นธรรมต่อฝ่ายกฎหมายของเทศบาลเมืองหัวหิน และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ของสำนักปลัดนายกฯ และศาลปกครอง เพื่อขอให้คุ้มครอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวบางรายศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ห้องฝ่ายนิติการเทศบาลเมืองหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของสถานประกอบกิจการร้านอาหาร บ้านพัก ร้านตัดเสื้อผ้า ริมชายชายหาดหัวหิน บริเวณสะพานปลา ศาลเจ้าแม่ทับทิมกว่า 20 ราย ได้เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านขอความเป็นธรรมต่อ พันจ่าเอกเรืองเดช สิทธิชัย หัวหน้าฝ่ายนิติการเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีหน่วยงานภาครัฐให้มีการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่รุกล้ำลงไปในพื้นที่สาธารณะทั้งหมด
โดยบางส่วนที่มีคำสั่งศาลพิพากษา และยกฟ้องไปแล้ว ส่วน 9 ราย ที่ศาลพิพากษาให้เสียค่าปรับจนกว่าจะรื้อถอน ส่วนหนึ่งได้แจ้งต่อทางเทศบาลเมืองหัวหิน ว่า ยินดีจะรื้อถอนออกไปแต่ขอผ่อนผันเป็นเวลา 120 วัน ซึ่งในส่วนนี้คณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินการบุกรุกชายหาด บริเวณสะพานปลา ถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฝ่ายนิติกรฯ รับเรื่องแล้วจะได้แจ้งต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
นายหัทยา ฮีกหาญ เจ้าของอาคารริมหาดหัวหิน พร้อมกับเจ้าของอาคารอีกหลายราย กล่าวว่า ต้องร้องขอความเป็นธรรม และยื่นเอกสารประวัติความเป็นมาในอดีตให้ภาครัฐ และท้องถิ่นได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องให้มากที่สุดเ พราะที่ผ่านมา ยังไม่มีภาครัฐมาชี้แจงทำความเข้าใจแต่ย่างใด เนื่องจากส่วนใหญ่เจ้าของกิจการมาอยู่อาศัยตั้งแต่ยังไม่มีถนนนเรศดำริห์ และยังไม่มีการจัดตั้งเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเดิมทำประมงพื้นที่บริเวณเดิมเป็นราวตาอวน และราวตาปลาหมึก จนความเจริญเข้ามาเปลี่ยนจากอาชีพประมงมาค้าขายมาจนถึงปัจจุบันนี้ รวมทั้งหากมีการรื้อถอนก็ไม่ได้ต่อต้านแ ต่ควรเปิดโอกาสให้เจ้าของอาคารต่างๆ ได้ชี้แจงให้ฟังบ้างเพื่อความเป็นธรรม โดยบางส่วนก็ยังอยากขอบ้านที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมไว้เป็นที่อยู่เท่านั้น
นอกจากนั้น เจ้าของอาคารต่างๆ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ข องสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อไป รวมไปถึงศาลปกครอง เพื่อร้องขอความคุ้มครองต่อไป เนื่องจากบางส่วนศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน เจ้าของสถานประกอบการบริเวณสะพานปลาหัวหิน ศาลเจ้าแม่ทับทิม ยังได้มีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเมืองหัวหินตั้งแต่อดีต โดยจัดนิทรรศการภาพเก่าแก่ในพื้นที่บริเวณดังกล่าวไว้ตามฝาผังบ้างน ละริมกำแพง พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้ามาได้แสดงความคิดเห็นอีกด้วย
มีรายงานว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และดำเนินการบุกรุกชายหาด บริเวณสะพานปลา ถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่มีหน่วยงานต่างๆ ทั้ง พ.อ.สุรวุฒิ ชุติวิทย์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน ตัวแทนจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 สาขาประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธฺ ตำรวจหัวหิน
หลังมีการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เตรียมรวบรวมสรุปข้อมูลทั้งหมด และหนังสือยื่นคัดค้านของเจ้าของกิจการต่างๆ ยื่นเสนอต่อ นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอความเห็นชอบในการดำเนินการต่างๆ ต่อไปว่าจะใช้อำนาจคำสั่งคณะปฏิวัติที่ 44/2502 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถใช้อำนาจทางการปกครองปิดประกาศสั่งรื้อถอนอาคารได้ตามขั้นตอนซึ่งกำหนด 15 วันหรือไม่ หรือจะมีความเห็นอย่างไร เมื่อได้ความแน่ชัดหลังจากนั้นจึงจะเชิญเจ้าของผู้ประกอบกิจการมาฟังคำชี้แจงในสัปดาห์หน้าต่อไป