พระนครศรีอยุธยา - นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ลงเรือเยี่ยม และแจกถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมรับปากจะช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำอย่างเต็มที่
เมื่อเวลา 12.50 น.วันนี้ (5 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมายังวัดโบสถ์ล่าง หมู่ 8 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับประชาชนที่มารอรับจำนวนมาก จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมจากนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งข้อเสนอ และแนวความคิดในการแก้ไขปัญหาระยะยาว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่มารอรับ จำนวน 500 ราย โดยมีตัวแทนมารับมอบ 40 ราย ก่อนที่จะไปยังท่าน้ำนั่งเรือไปมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อประชาชนว่า มีแนวความคิดอยากที่จะให้เกษตรกรทำเกษตรให้สอดคล้องกัน เช่น ที่ภาคเหนือช่วงเวลาหนึ่ง และภาคกลางช่วงหนึ่ง และเน้นโครงการประชารัฐให้ประชาชนแต่ละครอบครัวคัดเลือกสินค้าดีๆ มาจำหน่ายเพื่อให้มีรายได้ทุกวัน ส่วนที่เน้นเกษตรกรมากที่สุด คือ การทำโครงการนาแปลงใหญ่ เพื่อให้มีการต่อรองเรื่องราคาข้าว ส่วนเรื่องการบริหารจัดการน้ำนั้นมองเห็นว่าพื้นที่ไหนหากระบายน้ำได้ก็ให้ระบายได้ โดยมีการชดเชยตามความเป็นจริง และขณะนี้ออก พ.ร.บ.การเช่านา โดยไม่อยากให้นายทุนเป็นนายของชาวนา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยว่า ต้องแก้ไขที่ระบบ และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์ของสภาพภูมิอากาศ และภูมิประเทศ เนื่องจากปัจจุบันฝนไม่ได้ตกเหนือเขื่อนทางภาคเหนือตอนบน แต่มาตกหนักในภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน ซึ่งไม่มีเขื่อน ดังนั้น แนวทางแก้มลิงสองฝั่งแม่น้ำจึงควรนำมาปรับใช้ ขณะที่น้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาภาคกลางตอนล่าง แก้มลิง 2 ฝั่งเจ้าพระยาก็ต้องใช้ แต่ต้องอยู่ในเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากช่วงนี้น้ำทะเลหนุนไม่สูงสุด จึงจำเป็นต้องผลักดันมวลน้ำท่วมลงทะเลให้มากสุด และหากผลักดันน้ำลงทะเลไม่ได้ จึงจะใช้แก้มลิงเพื่อรับน้ำ จึงเป็นการทำงานอย่างเป็นระบบ