พะเยา - เกิดอุบัติเหตุระทึก หนุ่มมุกดาหารแวะกินลาบพร้อมเหล้าและเครื่องดื่มชูกำลัง ก่อนบึ่งรถบรรทุก 22 ล้อมุ่งไปรับผลไม้ชายแดนเชียงของ แต่เกิดยางแตก-ถนนลื่น รถพุ่งชนเก๋งข้างทางลากไปไกลนับร้อยเมตรไม่พอ พ่วงหลุดทับเพิงขายของซ้ำ เดชะบุญแค่ทำคนเจ็บ 1 ราย
วันนี้ (4 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่กา อ.เมืองพะเยา ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ยางแตกเสียหลักพุ่งชนรถเก๋ง และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ที่บริเวณหน้าวัดแม่กาห้วยเคียน ม.2 ต.แม่กา จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยรุดไปตรวจสอบช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทเชียงใหม่ธนาธร จำกัด หมายเลขทะเบียน 70-3518 เชียงใหม่ จอดขวางริมทางถนน และตู้คอนเทนเนอร์หลุดออกจากพ่วงทับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า บริโอ้ สีเขียว หมายเลขทะเบียน กง 7315 พะเยา ซึ่งจอดอยู่ข้างทางพังยับเยินเกือบทั้งคัน ตัวพ่วงยังได้เหวี่ยงไปชนกับเพิงขายของชาวบ้าน พร้อมรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายอีก 2 คัน ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่ยืนมุงดูเหตุการณ์
ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ น.ส.จีรพร มูลละ ซึ่งนั่งอยู่ภายในเพิงขายของ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต
จากการสอบถามนางกัญญาลักษณ์ อินเถิง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 53 ม.15 ต.แม่นาเรือ อ.เมืองพะเยา เจ้าของรถเก๋ง เล่าว่า ตนได้มาส่งสามีตัดผม และได้จอดรถไว้ข้างทาง จากนั้นได้มีรถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง รถได้เสียหลักพุ่งชนรถยนต์ตนแล้วลากไปไกลกว่า 100 เมตร โดยพบว่าคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมีอาการคล้ายคนเมาด้วย
ด้านนายพนม สมเมือง อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 100 ม.9 ต.ชะโนดน้อย อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกฯ เล่าว่า ได้ขับรถบรรทุกมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะไปรับผลไม้ที่ชายแดน อ.เชียงของ จ.เชียงราย พอมาถึง อ.งาว จ.ลำปาง ตนได้แวะกินข้าว (ลาบ) และได้ดื่มเหล้าไปพร้อมกับกระทิงแดงอย่างละ 1 ขวด
เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุยางล้อหน้าด้านขวาเกิดระเบิดขึ้น ประกอบกับฝนตกหนักถนนลื่นทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทาง และไปชนกับรถเก๋งที่จอดอยู่ข้างทาง รวมถึงเพิงขายของ และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่กาได้ควบคุมตัวนายพนม คนขับรถบรรทุก ไปสอบสวนและตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือดว่ามีปริมาณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ก่อนนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป