บุรีรัมย์ - ผู้ปกครอง นศ.พาณิชยการเชตุพน บางมด โร่ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อที่บุรีรัมย์ หลังลูกสาวกับเพื่อนรวม 19 คนเช่าแพนำเที่ยวล่องเมืองกาญจนบุรี เกิดไฟไหม้แพกระโดดน้ำหนีตายกลางดึกอลหม่าน บาดเจ็บ 5 คนหามส่งโรงพยาบาล เป็นงง เจ้าของแพกำชับห้ามผู้ประสบเหตุบอกสื่อ และแจ้งตำรวจ สุดท้ายถูกเจ้าของแพแจ้งความเรียกค่าเสียหายจาก นศ. 6 แสนบาท
วันนี้ (3 ต.ค.) นางจันทรกาญจน์ พ่อชมพู อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 113 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติได้นำหลักฐานคลิปภาพการสนทนากับพนักงานสอบสวน รวมถึงภาพเหตุการณ์ไฟไหม้แพนำเที่ยว เข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ
หลังจากถูกเจ้าของแพในจังหวัดกาญจนบุรีแจ้งความเรียกค่าเสียหายจากนักศึกษาวิทยาลัยพณิชยการเชตุพน เขตบางมด กรุงเทพฯ จำนวน 19 คน จำนวนเงิน 600,000 บาท ฐานทำให้เกิดเพลิงไหม้จนแพได้รับความเสียหาย สร้างความมึนงงให้แก่ผู้ปกครองนักศึกษาเป็นอย่างมาก เพราะสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้มาจากความบกพร่องของเจ้าของแพ
ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.พัชรินทร์ พ่อชมพู อายุ 18 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นหนึ่งในนักศึกษา 19 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาพวกตนพร้อมเพื่อนรวมทั้งหมด 19 คนได้เช่าแพชื่อ “แพเมืองกาญนิวส์เนติมา” ใน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เป็นแพ 2 ชั้น ในราคา 8,000 บาท นอน 1 คืน โดยมีคนขับเรือลากแพมาจอดไว้ห่างจากจุดที่ออกตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. ไปถึงจุดจอดประมาณ 18.00 น. จากนั้นคนขับเรือผูกแพไว้แล้วกลับไป ประมาณ 20.00 น. คณะที่ไปได้จัดกิจกรรมตามปกติ
จากนั้นมีคนเห็นควันไฟลุกบนชั้นสอง จึงเข้าไปตรวจสอบพบไฟกำลังลุกไหม้ เพื่อนๆ ได้พยายามหาถังดับเพลิงแต่ไม่มี จึงเอาน้ำสาดหวังดับไฟแต่ทำอะไรไม่ได้ ไฟกลับลุกลามอย่างรวดเร็ว ด้วยความตื่นตกใจนักศึกษาทั้งหมดจึงกระโดดน้ำหนีตายกันอลหม่าน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
จากนั้นได้แจ้งให้เจ้าของแพทราบ แต่กลับถูกเจ้าของแพกำชับห้ามไม่ให้แจ้งตำรวจ ไม่ให้บอกนักข่าว และห้ามนำไปโพสต์ทางโลกออนไลน์ แล้วจะดูแลเรื่องความเสียหายของทรัพย์สินภายในแพ แต่พอวันต่อมาเจ้าของแพกลับไปแจ้งตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์เพื่อเรียกค่าเสียหายจากพวกตนเป็นเงิน 600,000 บาท สร้างความมึนงงให้แก่นักศึกษาเป็นอย่างมาก
ทั้งที่ทรัพย์สินที่เป็นเสื้อผ้า เงินสด และโทรศัพท์อีก 16 เครื่องได้ถูกไฟไหม้ เสียหายมากกว่า 200,000 บาท การกระทำดังกล่าวของเจ้าของแพถือว่าไม่เป็นธรรมและไม่มีน้ำใจ คนเจ็บนอนโรงพยาบาลไม่เคยไปเยี่ยม ไม่สอบถามอาการความรู้สึกของนักศึกษา และเชื่อว่าเหตุที่เกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากเครื่องปั่นไฟ เพราะเห็นไฟกระตุกหลายครั้ง จึงไม่น่าจะโยนความผิดให้นักศึกษา
ด้าน นางจันทรกาญจน์ พ่อชมพู อายุ 48 ปี แม่ของ น.ส.พัชรินทร์ บอกว่า หลังทราบข่าวจากลูกสาว ตนอยู่จังหวัดบุรีรัมย์ตกใจมาก และรีบขึ้นรถไปหาทันที เมื่อไปถึงกลับพบว่าพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์พยายามพูดโน้มน้าวให้นักศึกษาลงขันกันจ่ายเงินให้เจ้าของแพ จึงคิดว่าตนเองและเพื่อนผู้ปกครองไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อฝ่ายนักศึกษาจะแจ้งความตำรวจกลับไม่รับแจ้ง จึงแอบถ่ายคลิปคำพูดเอาไว้
จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบใบอนุญาตแพแห่งนี้ว่าได้ขออนุญาตหรือไม่ มีมาตรฐานหรือไม่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนักศึกษายืนยันไม่มีการจุดไฟหรือมีวัตถุทำให้เกิดประกายไฟ และพร้อมจะต่อสู้ขอความเป็นธรรมถึงที่สุด