ราชบุรี - ตำรวจราชบุรี นำตัวผู้ต้องหาคดีดักจี้ชิงทรัพย์ และกระทำอนาจารสาวทางลอดใต้สะพานมาทำแผน ผู้ต้องหารับสารภาพทำจริง เนื่องจากมีความต้องการทางเพศสูง รอง ผบก.ภ.7 เผยผู้ต้องหาเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 ต.ค.) พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธ์ ผกก.5 บก.ปคม. และ พ.ต.อ.กิตติภพ ชมพูนุช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสุนันท์ โตแทน อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาในคดีชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและกระทำอนาจารแก่บุคคลกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบุคคลอื่น มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณทางลอดใต้สะพาน หมู่ 3 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา เนื่องจากมีชาวบ้านที่ทราบข่าว รวมทั้งญาติพี่น้องของผู้เสียหายมาเฝ้ารอดูการทำแผนกันจำนวนมาก
โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้ว 7 ครั้ง และที่บริเวณใต้สะพานแห่งนี้ จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด เห็นผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียวจึงได้ตามมา เมื่อมาถึงบริเวณทางลอดใต้สะพานจึงได้ขับรถเข้าเบียดชนที่ล้อหน้าทำให้ผู้เสียหายหยุดรถ และตนได้เอื้อมมือไปจับหน้าอก และอวัยวะเพศพร้อมกับนำโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าเงินไป แต่ผู้เสียหายกลัวจึงทิ้งรถวิ่งหลบหนี ตนจึงได้ขี่รถออกมา แต่เห็นว่าผู้เสียหายย้อนกลับมาอีกจึงได้กลับเข้ามาอีกครั้ง และจับผู้เสียหายลากเข้าไปด้านหลังเสาต่อม่อพร้อมกับจับถอดเสื้อผ้า และขอร่วมเพศด้วยแล้วตนจะคืนของให้ทั้งหมด
แต่ผู้หญิงกลัวว่าจะไม่ได้คืนของตนจึงเดินกลับไปที่รถเพื่อจะนำของมาคืนให้ ช่วงจังหวะนั้นผู้เสียหายได้วิ่งหนีไป ซึ่งตนยอมรับว่า มีความต้องการทางเพศสูง และไม่มีเงินไปเที่ยวผู้หญิงจึงใช้วิธีนี้ ส่วนรายแรกที่ก่อเหตุใต้สะพานนั้นแค่ได้จับหน้าอก และเอาทรัพย์สินไปเท่านั้น ไม่ได้ข่มขืน
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยติดคุกมาหลายครั้ง ล่าสุดติดคุกในคดียาเสพติดที่ จ.ราชบุรี และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ 3 เดือน และจะออกก่อเหตุในช่วงคืนวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายที่ถูกผู้ต้องรายนี้หากระทำ แต่ไม่ได้มาแจ้งความเพราะตัวผู้ต้องหาเองก็รับสารภาพว่าก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมืองราชบุรี หลายราย แต่ยังไม่มีใครมาแจ้งความเพราะอาจจะอับอาย
