น่าน - เกิดเหตุคนร้ายปฏิบัติการอุกอาจ ควงปืนจี้ชิงเงินแบงก์ออมสินกลางเมืองน่าน ก่อนซิ่งมอเตอร์ไซค์หนี แต่ไม่พ้นถูกพลเมืองดีช่วยกันสกัดจับได้ทันควัน พบเป็นผู้จัดการสาขาน้ำอัดลมยี่ห้อดัง เผยทำธุรกิจมีปัญหา-หนี้ล้น ส่องดูลาดเลา 3 วันก่อนลงมือ
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมา 13.30 น.เศษที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนจี้ชิงเงินสดในธนาคารออมสิน สาขาห้างนราไฮเปอร์มาร์ท กลางเมืองน่าน จากนั้นได้ขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ที่ใช้สติกเกอร์ปิดบังตัวรถและแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนี แต่พลเมืองดีได้ช่วยกันสกัดจับตัวไว้ได้
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบริเวณลานจอดจักรยานยนต์ด้านหลังของห้างฯ พบพลเมืองดีช่วยกันจับตัวคนร้ายทราบชื่อต่อมาคือ นายนฤทธิ์ อมาตยศักดิ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน พร้อมด้วยของกลางถุงใส่เงินสดจำนวน 298,500 บาท จักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ หมายเลขทะเบียน วจต 657 กรุงเทพมหานคร และปืนสั้นขนาด .38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวน 1 กระบอก
นายนพดล อินต๊ะมา และนายอัครเดช เสื้ยนเสริม พลเมืองดีที่ช่วยสกัดจับคนร้ายเล่าถึงเหตุการณ์ว่า เห็นคนร้ายขี่จักรยานยนต์โดยมีคนถือไม้วิ่งไล่ตาม ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นคนทะเลาะวิวาท แต่เมื่อได้ยินว่า เป็นการจี้เงินก็ได้ช่วยกันหาจังหวะถีบจักรยานยนต์ให้ล้มลง คนร้ายได้ยกปืนขึ้นข่มขู่ไม่ให้เข้าจับตัว แต่ก็มีพลเมืองดีหลายคนได้ช่วยกันหาจังหวะเพื่อจับตัวให้ได้ ซึ่งคนร้ายมีเพียงลำพังทำให้สามารถรุมจับตัวไว้ได้ในที่สุด
พ.ต.ท.อุทัย วงศ์คำแสน รองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองน่าน เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้จัดการสาขา เครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อดังที่ตั้งอยู่แยกสวนตาล เขตเทศบาลเมืองน่าน โดยอาศัยช่วงจังหวะคนน้อยก่อเหตุใช้ปืนสั้นเข้าไปชิงเงินสดในธนาคาร บังคับให้พนักงานที่เคาน์เตอร์นำเงินใส่ถุงก่อนหลบหนี
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากมีปัญหาด้านหนี้สินที่เกิดจากการทำธุรกิจรวมกว่า 3 ล้านบาท ทำให้เกิดความเครียด และวางแผนดูลาดเลาในธนาคารมากว่า 3 วันก่อนที่จะลงมือ
ล่าสุดขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ ทั้งของทางห้างสรรพสินค้า และของธนาคาร คาดว่าคนร้ายจะมีการเตรียมการวางแผนมาอย่างดี เนื่องจากมีการเตรียมรถยนต์นำไปจอดรอไว้ที่ลานวัดท่าช้าง เขตเทศบาลเมืองน่านอีกด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
