มุกดาหาร - ตำรวจภูธรมุกดาหารสนธิกำลังทหาร พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องยึดกระเทียมลักลอบหนีภาษี 420 กระสอบ 8,400 กก. มูลค่ากว่า 800,000 บาท พร้อมรถบรรทุก 10 ล้อ รถกระบะ และผู้ต้องหา 3 คน
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พ.อ.ทักษพล ศิริรักษ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมุกดาหาร พ.อ.ยุทธนา มหาวัน รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.ฐากูรสมบัติ สวงโท ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร ร่วมกันแถลงจับกุม นายอนุวัช ทองกาล อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 114 หมู่ที่ 8 ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร นายเอกลักษณ์ เกิดหิรัญ อายุ 30 ปี บ้าเลขที่ 793 ถนนสำราญชายโขงเหนือ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร และนายรุ่งอนัน กงนะ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 90 หมู่ 11 ต.โพนทราย อ.เมือง จ.มุกดาหาร ทั้ง 3 คน ได้ลักลอบขนกระเทียมแห้งเถื่อนเพื่อไปส่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับรายงานจากสายว่า จะมีการลักลอบขนกระเทียมเถื่อนโดยจะใช้เส้นทางมุกดาหาร-คำชะอี เพื่อไปส่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังทหาร ปกครอง ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายที่บริเวณหน้าตู้ยามนาโสก ต.นาโสก อ.เมือง จ.มุกดาหาร
จนกระทั่งมีรถ 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แล่นผ่านมา จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้นรถ 10 ล้อดังกล่าว พบกระเทียมแห้ง จำนวน 320 กระสอบ บรรทุกอยู่ที่กระบะของรถ 10 ล้อ โดยใช้ผ้าใบปกคลุมเอาไว้ มี นายนายอนุวัช ทองกาล เป็นคนขับ
ขณะเดียวกัน ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บฉ 8526 มุกดาหาร มี นายเอกลักษณ์ เกิดหิรัญ เป็นคนขับ และมีนายรุ่งอนัน กงนะ เป็นคนนั่งมาด้วย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในรถกระบะพบกระเทียมแห้ง จำนวน 100 กระสอบ บรรทุกมาเต็มกระบะ โดยใช้ผ้าใบปกปิดมิดชิด รวมกระเทียมทั้งหมด จำนวน 420 กระสอบ น้ำหนัก 8,400 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 800,000 บาท
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างขนกระเทียมจากบ้านนาโปใหญ่ ให้ไปส่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานำเข้ากระเทียมแห้งที่ยังมิได้ผ่านการเสียภาษีศุลกากร ซึ่งนำเข้าโดยผิดกฎหมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดกระเทียม รถยนต์ และผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่ง พ.ต.ท.จเด็จ ปลีพูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป