ชัยนาท - เทศบาลตำบลสรรพยา จังหวัดชัยนาท เร่งนำดิน 100 คันรถ ถมตลิ่งริมถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา หลังถูกน้ำกัดเซาะเพื่อชะลอดินพังทลายเพิ่มขึ้น ขณะที่สถานการณ์น้ำที่อำเภอมโนรมย์ เพิ่มสูงขึ้น
วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 300 เมตร บริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ที่ถูกน้ำกัดเซาะดินใต้ถนนพังทลายเป็นช่วงๆ ลึกเข้าไปประมาณ 1 เมตร ทำให้เสี่ยงถนนเกิดการทรุดตัว และพังทลายลงไปในแม่น้ำ จนเทศบาลตำบลสรรพยา ต้องสั่งปิดถนนไม่ให้รถใหญ่สัญจร
ล่าสุด ทางเทศบาลตำบลสรรพยา ได้นำดิน 100 คันรถ ไปถมตลิ่งริมถนนดังกล่าวเพื่อชะลอการพังทลายของดิน และป้องกันน้ำกัดเซาะดินใต้ถนนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวต่างรู้สึกกังวลกลัวว่า ถนนจะทรุดตัวจะทำให้เข้าออกบ้านไม่ได้ บางคนถึงกับเครียด และนอนไม่หลับ
ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา วันนี้น้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาจากจังหวัดนครสวรรค์ และน้ำสะแกกรัง จากจังหวัดอุทัยธานี ได้ไหลมารวมกันที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท มีปริมาณ 2,000 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่อำเภอเมืองชัยนาท เพิ่มขึ้น 22 ซม.อยู่ที่ระดับ 16.64 เมตร (รทก.) เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำในปริมาณ 1,790 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 4 ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่อำเภอสรรพยา ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 14.37 เมตร (รทก.)
ด้าน นายวิศาล วสุนธาราพร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มวลน้ำที่ไหลบ่ามาจากภาคเหนือซึ่งมารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดนครสวรรค์ ยังอยู่ในระดับทรงตัว ล่าสุด มีอัตราการไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 ประมาณ 1,800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้จุดลุ่มต่ำริมตลิ่งเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ ได้รับผลกระทบบางส่วน เบื้องต้น มีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกแต่ยังอยู่ในระดับที่ชลประทานนครสวรรค์ สามารถควบคุมได้ โดยอัตราการไหลผ่านจากนี้ไม่น่าจะเกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่ามวลน้ำในแม่น้ำปิงเริ่มลดลงแล้ว ส่วนที่แม่น้ำน่านนั้นเพิ่มขึ้นอยู่เล็กน้อย ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่มีอยู่ในลุ่มเจ้าพระยาภาพรวม ล่าสุด มีอยู่เพียงร้อยละ 50 คือ 1,700 ลบ.ม./ต่อวินาที ขณะที่สามารถรองรับได้ถึง 3,500 ลบ.ม./วินาที