มหาสารคาม - เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ในตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน อำเภอเชียงยืน มหาสารคาม วอดกว่า 11 คูหา มูลค่าเสียหายกว่า 45 ล้านบาท เผยต้นเพลิงเป็นร้านขายของชำขนาดใหญ่ ทั้งเป็นเก็บสต็อกดอกไม้ไฟ เตรียมจำหน่ายช่วงออกพรรษานี้ คาดสาเหตุเบื้องต้นจากไฟฟ้าลัดวงจร รอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสรุปสาเหตุอีกครั้ง
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ท.สายัณห์ แก้วนิสัย ร้อยเวร สภ.เชียงยืน ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลเชียงยืน และใกล้เคียงอีกกว่า 10 คัน เข้ามาควบคุมเพลิง ต้นเพลิงเป็นร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดชื่อร้าน “ศรีสมรซูเปอร์สโตร์” ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดขนาดใหญ่ จำนวน 11 คูหา เจ้าหน้าที่เข้าดับเพลิงด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนทางเข้าแคบ ทั้งขณะเกิดเหตุยังมีเสียงพลุ ประทัดดังอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากทางร้านเพิ่งสั่งซื้อดอกไม้ไฟมาสต๊อกไว้จะนำออกขายช่วงเทศกาลออกพรรษา โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้สงบได้
จากการสอบถาม นางวลัยพร ศรีนิล เจ้าของกิจการร้านศรีสมรซูเปอร์สโตร์ กล่าวว่า อาคารดังกล่าวเลขที่ 368 และ 667 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นอาคารราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้นต่อกัน ภายในอาคารเลขที่ 368 ซึ่งเป็นที่เก็บสินค้าเบ็ดเตล็ดทั้งปลีกและส่ง ประเภทอาหารแห้ง ขนมขบเคี้ยวถูกเพลิงไหม้เสียหาย ส่วนอาคารเลขที่ 667 มีลักษณะต่อเติมอาคารเป็นหลังคายกสูง ภายในเก็บสินค้าประเภทน้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดอกไม้ไฟที่เตรียมไว้จำหน่ายช่วงเทศกาลออกพรรษา
ขณะเกิดเหตุดอกไม้ไฟที่เก็บไว้เกิดความร้อนทำให้เกิดระเบิด ตัวอาคารพังถล่มลงมา เศษพลุ ประทัดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ โดยอาคารดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 42 คาดว่าต้นเพลิงน่าจะมาจากห้องคอมพิวเตอร์เกิดไฟฟ้าลัดวงจรมีเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนที่จะเกิดประกายไฟไปติดกับฉนวนกันความร้อนทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้จนไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เพลิงเผาไหม้อาคารเสียหายทั้งหมด มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 45 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผงค้าในตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน ได้รับความเสียหายไฟไหม้อีกหลายคูหา
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังมาจากร้านค้า ก่อนที่ไฟจะลุกลาม ซึ่งเสียงระเบิดดังมากได้ยินไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดจากดอกไม้ไฟดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไปดับไฟต้องรอเจ้าหน้าที่มาดับ ทำให้เพลิงลุกลามสร้างความเสียหายแก่อาคารทั้งหลัง และแผงค้าของพ่อค้าแม่ค้าได้รับความเสียหาย
พ.ต.ท.สายัณห์ แก้วนิสัย ร้อยเวร สภ.เชียงยืน กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด ต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาดูที่เกิดเหตุเสียก่อน จากนั้นจะได้สอบปากคำเจ้าของกิจการ และพยานแวดล้อมที่อยู่ในที่เกิดเหตุจึงจะสรุปสาเหตุได้
ด้านเทศบาลตำบลเชียงยืน ได้ตั้งเต็นท์เพื่อรับเรื่องจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ที่บริเวณภายในตลาดสดเทศบาลตำบลเชียงยืน