นครพนม - พรานล่าปลาเมืองนครพนม จับปลาแค้ยักษ์แพกคู่ ขายฟันเงินเข้ากระเป๋าเกือบหมื่นบาท
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่จังหวัดนครพนม ในช่วงฤดูน้ำหลาก ชาวประมงพื้นบ้านใน ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม โดยเฉพาะที่บ้านบัว หมู่ 3 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง จะนำเรือออกล่าปลาตั้งแต่ช่วงกลางดึกถึงรุ่งเช้าเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้เป็นล่ำเป็นสัน หลังจับปลาแค้ยักษ์ 2 ตัว น้ำหนักรวมกัน 38.2 กิโลกรัม ทำเงินได้เกือบ 1 หมื่นบาท
นายกาสี หีบปลา อายุ 56 ปี หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านอาชีพจับปลา กล่าวว่า ตนนำเรือติดเครื่องยนต์ออกหาปลาห่างตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ 700 เมตร โดยใช้อวนลากปลาบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นแหล่งพันธุ์ปลาน้อยใหญ่อาศัยอยู่ชุกชุม จนชาวบ้านละแวกนี้ขนานนามว่าเป็น “วังปลา” กระทั่งรุ่งเช้าช่วง 7 โมง พบปลาขนาดใหญ่ติดอวน 2 ตัว ตรวจสอบพบว่า เป็นปลาแค้ ปลาน้ำจืดที่หายาก และมีราคาแพง
ชาวประมงรายนี้ กล่าวต่อว่า ปลาตัวแรกมีความยาว 1 เมตรเศษ วัดรอบตัวได้ 75 ซม. น้ำหนัก 22.8 กิโลกรัม ตัวที่ 2 ยาวร่วม 1 เมตร วัดรอบตัวได้ 65 ซม. น้ำหนัก 15.4 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 38.2 กิโลกรัม จึงรีบนำไปจำหน่ายให้แม่ค้าในตลาดสดเทศบาลฯ ในตัวเมือง ในราคาขายส่งกิโลกรัมละ 250 บาท ได้เงินเข้ากระเป๋า 9,555 บาท
ก่อนที่แม่ค้าจะขายต่อในราคากิโลกรัมละ 300 บาท ให้แก่ร้านอาหารปากแม่น้ำสองสี ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน มารับซื้อต่อในราคา 11,460 บาท
ซึ่งปลาชนิดนี้เป็นปลาที่พบเห็นได้ยากมาก มักอาศัยอยู่ในแม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำโขง ตัวใหญ่สุดมีความยาว 2 เมตร เป็นปลาที่หากินปลาเล็กใต้น้ำลึก ตั้งแต่เกิดมาเคยจับได้แค่ 10 ตัว แต่ตอนนั้นยังไม่มีราคา เมื่อปี 2531 มีราคาแค่กิโลกรัมละ 25 บาท เดิมทีไม่ค่อยมีใครนิยมกินนักเพราะเชื่อว่าปวดหลังปวดเอว
แต่ปัจจุบันร้านอาหาร และภัตตาคารชื่อดังนำไปทำเมนูเด็ด ปลาจุ่ม ลาบปลา ผัดฉ่า ปลาลวกจิ้ม เนื้อมีสีเหลือง มีรสชาติเอร็ดอร่อย และมีราคาแพงกว่าปลาบึก และปลาโจก
