กาญจนบุรี - ญาติเหยื่อภัยสังคมร้ายแรงในเมืองกาญจนบุรี วอนตำรวจเร่งติดตามจับกุมไอ้โรคจิตที่ใช้ผ้าปิดปากอำพรางใบหน้าตัวเองแอบซุ่มมองหวังปองร้ายหญิงสาว ขณะนำ จยย.เข้าบ้านในช่วงกลางคืนมาดำเนินคดีโดยเร็ว แม่ยายเหยื่อเผยวันเกิดเหตุเห็นเหตุการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดตลอด แต่ไม่กล้าเสียงดังเนื่องจากภายในบ้านมีแต่ผู้หญิง และเด็ก ด้าน ตร.ท่ามวง เผยกำลังเร่งติดตามไอ้โรคจิตอยู่ พร้อมแนะประชาชนให้ระวังตัวมากว่าเดิม โดยเฉพาะหญิงสาววัยรุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก นามว่า Persia Jongtawon นำคลิปวิดีโอภาพจากกล้องวงจรปิด ความยาว 1.33.33 นาที และภาพนิ่ง จำนวน 4 ภาพ มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากพบหนุ่มวัยรุ่นใช้ผ้าปิดปากเพื่ออำพรางใบหน้าตนเอง แต่พบมีรอยสักที่บริเวณแขน และขา เจอหญิงสาวขณะกำลังนำรถจักรยานยนต์เข้าบ้านในตอนกลางคืน แล้วชายคนดังกล่าวได้จอดรถจักรยานยนต์ซุ่มมองรอจังหวะหวังเข้าปองร้าย แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมีคนอยู่ในบ้านก่อนถอนตัวออกมาแล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป อยู่ในพื้นที่อำเภอท่าม่วง ตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้ที่ใช้เฟซบุ๊ก นามว่า Persia Jongtawon ก่อนได้นำสื่อมวลชนเดินทางไปบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นห้องแถว 3 ห้องติดกัน บริการรับจัดอาหารโต๊ะจีน ตั้งอยู่ริมถนนในซอยโรงเจ หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบกับญาติของหญิงสาวคนที่ปรากฏภาพในคลิป ส่วนหญิงสาวคนดังกล่าวเป็นลูกสะใภ้ และเดินทางไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี
โดย นายณัฐพงษ์ ฐิตินันทเดชเอก พี่ชายสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวเล่าว่า วันเกิดเหตุน้องสะใภ้ เพิ่งกลับจากทำงานแล้วออกจากบ้านไปซื้อของในตลาดท่าม่วง จนเวลาประมาณ 22.00 น.ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้าน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในในคลิปวิดีโอที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ ซึ่งน้องสะใภ้ กล่าวว่า ชายคนดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมาตั้งแต่อยู่ในตลาดจนมาถึงบ้าน ซึ่งหลังเกิดเหตุน้องสะใภ้ พร้อมญาติได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วที่ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ด้านนางเอ (นามสมมติ) แม่ยาย กล่าวว่า ปกติที่บ้านจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน มีตน ลูกชาย ลูกสะใภ้ และเด็กอีก 3 คน ซึ่งวันดังกล่าวนั้นลูกชายไปทำงาน โดยที่บ้านติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั้งหมด 4 ตัว เดิมทีเมื่อถึงเวลากลางคืนก็จะปิดกล้องทั้งหมด แต่วันดังกล่าวตนรู้สึกแปลกๆ ใจ จึงเปิดกล้องวงจรปิดทิ้งเอาไว้ทุกตัว จากนั้นก็เข้าไปนอนดูทีวีภายในห้องนอนพร้อมกับเด็ก และคอยดูภาพวงจรปิดจากจอมอนิเตอร์ไปด้วย และเห็นภาพเหตุการณ์ทุกขั้นตอน แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงดังเนื่องจากภายในบ้านมีแต่ผู้หญิง และเด็ก
โดยเห็นชายคนดังกล่าวได้ยืนมองบนม้าหินอ่อนหน้าบ้าน จากนั้นได้เดินอ้อมไปเข้าประตูที่หลังบ้าน ขณะกำลังมองผ่านกระจกเข้าไปในห้องพวกตนก็ร้องเอะอะโวยวาย ชายวัยรุ่นที่บุกเข้ามาภายในบ้านจึงรีบวิ่งหนีออกไปจากบ้านแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกคนจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ท่าม่วง ดังกล่าว
“อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้เร่งติดตามจับกุมบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเท่าที่ทราบ พบว่า หลังจากที่ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไป และได้ไปก่อเหตุฉุดหญิงสาวที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่จนล้ม แล้วบังคับข่มขืนจิตใจหญิงสาวคนดังกล่าวด้วยการบีบคอแล้วใช้มือลูบคลำไปตามร่างกาย แล้วใช้มือช่วยเหลือตัวเองจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งยังโชคดีที่ไม่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ซึ่งถือว่าพฤติกรรมมีลักษณะเหมือนพวกโจรโรคจิต”
ด้าน พ.ต.ท.ศิริ นิลาภรณ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าม่วง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาตัวคนร้ายอยู่ อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงประชาชนที่เห็นภาพชายคนดังกล่าวที่อยู่ในคลิปวิดีโอที่มีการแชร์ต่อๆ กันไปในเฟซบุ๊ก หากสงสัยว่าเป็นคนเดียวกันที่อยู่ในภาพ และคลิปก็ขอให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง และที่ สภ.พนมทวน หรือโทร.ไปที่สายด่วน 191 เพราะจะได้นำกำลังไปคุมตัวเอาไว้เพื่อนำมาสอบสวน
พร้อมกับขอฝากเตือนไปยังกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นหญิงสาวที่นิยมขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางที่เปลี่ยว จะเป็นความจำเป็นหรือไม่ก็ตาม ก็ขอให้ช่วยระมัดระวังตัวเองด้วย หากพบวัยรุ่นชายชับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาก็ขอให้ขับเข้าไปจอดตามร้านค้าที่อยู่ริมทางเสียก่อน เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่รู้ว่าบุคคลดังกล่าวจะแฝงตัวมาแบบไหน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน